อรชุน
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
ผ่านพ้นไปเรียบร้อยสำหรับศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจที่สามารถใช้คำว่า “ขอแค่ได้ซักฟอก” ได้อย่างเต็มปากเต็มคำสำหรับพรรคฝ่ายค้าน หลักฐานประเภทโป้งเดียวจอดหรือมวยคู่เอกที่คุยโม้โอ้อวดก่อนหน้านั้นไม่มีให้เห็น เป็นได้แค่คู่มวยก่อนเวลาเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ผลจากการอภิปรายที่เกิดโดยเสียงยกมือโหวตไว้วางใจกับไม่ไว้วางใจนั้น ทำให้มองเห็นรอยปริแยกระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล ปัญหาภายในพรรคเดียวกันเอง และเห็นแนวโน้มของคนจากซีกฝ่ายค้านที่น่าจะเปลี่ยนสีเสื้อ
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
อ่านสัญญาณจากการให้สัมภาษณ์ของ ชวน หลีกภัย แนวโน้มการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะไม่จบในวันที่ 20 กุมภาพันธ์นี้มีความเป็นไปได้มากทีเดียว ไม่ใช่เหตุผลเพราะฝ่ายค้านยังใช้เวลาไม่ครบตามที่ได้กำหนดกันไว้คือ 42 ชั่วโมง แต่เป็นเพราะมีการประท้วงกันโดยใช้เวลาพอสมควร ขณะที่รัฐมนตรีผู้ตอบคำถามก็ใช้เวลากันไปไม่น้อย ดังนั้น กรอบเวลาที่กำหนดไว้ 4 วันจึงไม่น่าจะเพียงพอ ประกอบกับในวันที่นัดลงมติคือเสาร์นี้ ก็มีการนัดชุมนุมของกลุ่มราษฎรด้วย
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
การอภิปรายไม่ไว้วางใจได้เห็นลีลาของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจตอบโต้ฝ่ายค้านแล้ว ต้องยอมรับว่ามีพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตา การไม่แสดงอารมณ์โกรธ พยายามตอบให้อยู่ในประเด็น มีพาดพิง ตอกกลับฝ่ายตรงข้ามบ้างถือเป็นสีสันปกติของศึกซักฟอกทุกยุคทุกสมัย หากสถานการณ์การอภิปรายดำเนินไปเหมือนในวันแรกจนครบทั้งสี่วัน ฝ่ายค้านต้องยอมรับชะตากรรมว่าเป็นการเตะหมูเข้าปากหมา จากการซักฟอกกลายเป็นฝ่ายรัฐบาลได้ฟอกขาวตัวเองไปเสียฉิบ
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
ผ่านพ้นวันแรกไปแล้วกับศึกซักฟอกรัฐบาล ไม่ได้มีอะไรอยู่เหนือความคาดหมาย หลัง สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรได้อภิปรายเปิดญัตติซักฟอก ทันทีที่มีการกล่าวหาผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจใช้สถาบันมาเอื้อประโยชน์ให้กับตัวเอง องครักษ์พิทักษ์เจ้านายก็ทำหน้าที่ทันที ทั้ง ไพบูลย์ นิติตะวัน สิระ เจนจาคะ และ ปารีณา ไกรคุปต์ ดีที่ว่า ชวน หลีกภัย ยืนยันหนักแน่นในหลักการเมื่อผู้นำฝ่ายค้านอ่านญัตติตามตัวอักษรที่ได้ผ่านการวินิจฉัยถือว่าทุกอย่างถูกต้อง
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
วันแรกของศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจเริ่มแล้ววันนี้ ประเด็นที่ต้องจับตามองตั้งแต่เริ่มต้นก็คือ ในการแถลงเปิดญัตติซักฟอกของ สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เมื่อถึงประเด็นการใช้สถาบันมาเอื้อประโยชน์ให้กับตัวเองของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ บรรดาลิ่วล้อทั้งหลายที่ตั้งท่าไว้ก่อนหน้าจะพากันลุกขึ้นมาประท้วง จนท้ายที่สุดนำไปสู่ความโกลาหลจนไม่สามารถอภิปรายกันได้หรือไม่ อย่าลืมเป็นอันขาดว่าฝ่ายอำนาจสืบทอดมีญัตติของ ไพบูลย์ นิติตะวัน ที่ยื่นคาไว้ขู่อยู่แล้ว
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
เหลือเวลาอีกไม่ถึง 24 ชั่วโมง การอภิปรายไม่ไว้วางใจ 10 รัฐมนตรีที่มีหัวขบวนคือผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจจะเริ่มขึ้น โดยที่ฝ่ายรัฐบาลก็ได้ใช้โรงแรมหรูกลางกรุงติวเข้มให้กับรัฐมนตรีที่จะถูกซักฟอกไปเรียบร้อยแล้วเมื่อวันเสาร์และอาทิตย์ที่ผ่านมา ความจริงไม่ต้องมีการดำเนินการอะไรที่ให้เอิกเกริกกันขนาดนั้น เพราะการถูกฝ่ายค้านตรวจสอบในเรื่องที่อยู่ในความรับผิดชอบของรัฐมนตรีแต่ละราย คนที่ทำงานจริงและเชื่อมั่นในความสุจริต โปร่งใส ไม่จำเป็นที่จะต้องมาซักซ้อม เตรียมตัวอะไรให้มากความ
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
ไม่ได้เป็นเรื่องเหนือความคาดหมายกับการที่ประชุมรัฐสภามีมติเสียงข้างมาก 366 เสียงส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยปมแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 256 เป็นการแก้ไขทั้งฉบับหรือไม่ ตามมาด้วยเสียงค่อนขอดของส.ว.ลากตั้งเจ้าของญัตติอย่าง สมชาย แสวงการ ที่ย้อนถามว่า กลัวอะไรกันนักหนา ความจริงก็ควรจะต้องย้อนถามตัวเองมากกว่า ว่ากลัวอะไรกับการที่จะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ปูนบำเหน็จให้พวกลากตั้งชูคอกันหน้าสลอนอยู่เวลานี้ โดยเฉพาะผู้พูดที่เลียท็อปบูธชนิดถวายชีวิตจนได้ดิบได้ดี
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
เอาอีกแล้วกับประโยคตอบโต้เรื่องวัคซีนโควิด-19 ของ อนุทิน ชาญวีรกูล ที่ว่า “ถ้าจะให้ข่าวที่ย้อนแย้งกันไม่มีประโยชน์ เพราะท่านไม่ได้บริหารประเทศ เอาเวลาไปหาวิธีเพื่อที่จะได้เข้าบริหารประเทศดีกว่า” สะท้อนให้เห็นถึงความคิดและอุดมคติทางการเมืองของเสี่ยหนูได้เป็นอย่างดี และไม่ต้องแปลกใจกับการที่สยบยอมอยู่ภายใต้ขบวนการสืบทอดอำนาจ เพราะหลักใหญ่ใจความของคนพรรคนี้คือทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะให้ตัวเองได้เป็นฝ่ายรัฐบาล ไม่ต้องคำนึงถึงที่มาว่าจะสง่างามหรือไม่
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
วันนี้ทั่วประเทศคึกคักกับการเปิดรับสมัครนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาลทั่วประเทศเป็นวันแรก โดยมีคิวหย่อนบัตรกันในวันที่ 28 มีนาคมนี้ ส่วนนายกและสมาชิกอบต.วางโปรแกรมกันไว้ว่าน่าจะเกิดขึ้นภายในกลางปีประมาณเดือนมิถุนายนหรือกรกฎาคม ตบท้ายด้วยเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม.และนายกเมืองพัทยาช่วงปลายปีที่ไม่น่าจะเกิดเดือนตุลาคมนี้ นี่คือการวางไทม์ไลน์ที่ฝ่ายกุมอำนาจพิจารณาจากความพร้อมในการวางตัวของพรรคพวกตัวเองเป็นด้านหลัก
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
มีเหตุให้อธิบายได้ต่อการที่ศบค.ออกประกาศห้ามการชุมนุม การทำกิจกรรม การมั่วสุมที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นผลพวงมาจากกรณีการชุมนุมหน้าสถานทูตเมียนมา ไม่ใช่เพราะเกิดเหตุปะทะของกลุ่มการ์ดวีโว่ หากแต่เป็นเรื่องที่ผู้ร่วมชุมนุมทั้งคนไทยและพม่าจำนวนไม่น้อยไม่ได้ใส่หน้ากาก และเกรงกันว่าจะเป็นอีกจุดหนึ่งที่ทำให้เกิดการแพร่ระบาดในวงกว้างได้ กรณีเช่นนี้คนไทยโดยทั่วไปคงไม่มีใครติดใจ