โมนิก้าและทีมงาน

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : ไร้ทางฟื้น?

    หากประเมินสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยแบบวันต่อวัน “โมนิก้า” บอกได้ทันทีว่า มีแต่เรื่องชวนปวดเศียรเวียนเกล้า เพราะมองไปทางไหนด้านไหน ก็มีแต่ปัญหาเยอะแยะเต็มไปหมด จนมองไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์อยู่ตรงไหน? เท่ากับเป็นตัวเร่งให้นักลงทุนสถาบันต้องขายหุ้นเมื่อยกตัวสูงขึ้นเล็กน้อย เพราะไม่คุ้มที่จะถือหุ้นต่อไปเรื่อย ๆ หากสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยยังเป็นเช่นนี้จะบอกให้

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : ทรัมป์ป่วนโลก

    หากว่ากันตามตรง ต้องยอมรับว่าเกมการเมืองระดับโลกส่งผลโดยตรงกับการทำธุรกิจของประเทศต่าง ๆ อย่างมีนัยสำคัญ และทำให้กระทาชายผู้กลัดมันในอารมณ์อย่าง “ทรัมป์” กลายเป็นคนกำหนดชะตาชีวิตโลกไปเสียแล้วแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่ยากจะต้านทานเสียจริง ๆ เพราะฝั่งคู่ขัดแย้งอย่างประเทศ “จีน” ก็พร้อมจะตอบโต้แบบเกลือจิ้มเกลือเหมือนกันนั่นเองเจ้าค่ะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : อัพไซด์จำกัด

    ดัชนีท้ายสัปดาห์ที่ผ่านมาถูกลากขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,646.68 จุด บวกไป 13.12 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.11 หมื่นล้านบาท ยิ่งเป็นการตอกย้ำสิ่งที่ “โมนิก้า” เคยเกริ่นและแอบกระซิบแฟนคลับตั้งแต่วันก่อนว่าเป็นรูปแบบที่ต้องทันเกม! พวกอ่อนต่อโลกอาจไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นในรอบนี้ แต่ผู้ที่เจนสนามที่เข้าใจเรื่องเกมการเงินจะมองรูปแบบของการลงทุนได้อย่างถ่องแท้

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : W-Shape

    ก่อนอื่นต้องยอมรับความจริงว่า สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในแต่ละวันไม่เป็นเหมือนกับที่คิดสักเท่าไหร่? เพราะหุ้นที่เคยทำท่าจะไปได้สวยหลายตัวออกอาการเครื่องช็อตไปดื้อ ๆ ขณะเดียวกันก็พบว่า หุ้นบางตัวที่พยายามตั้งลำขึ้นอย่างแข็งแกร่งก็หมดแรงเอาดื้อ ๆ เช่นกัน ส่งผลให้ดัชนีมีลักษณะปรับตัว “ขึ้นวัน ลงวัน” ตามปัจจัยที่เข้ามากระทบในแต่ละวันไงล่ะคะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : 1,650 เป้าถัดไป

    หลังจาก “โมนิก้า” เม้าท์ถึงสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยวนไปวนมาพอหอมปากหอมคอ ก็ถึงเวลาไล่ซื้อหุ้นรอบใหม่อย่างเต็มตัวอีกครั้ง ซึ่งเที่ยวนี้เป็นการเอาความเชื่อเกี่ยวกับมาตรการทางการคลังเข้ามาเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก จึงกลายเป็นแรงกระตุ้นให้เหล่านักเล่นหวนกลับเข้ามาไล่ราคาหุ้นกันอีกครั้ง ส่งผลให้บรรยากาศของตลาดหุ้นไทยสดใสขึ้นเป็นกองนะจะบอกให้

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : จุดเทียนเวียนวน

    หลังจาก “โมนิก้า” สาละวนอยู่กับปัญหาโลกแตกสารพันหลายเรื่องพักใหญ่ ๆ ในที่สุดก็ได้เวลากลับสู่โลกของการเม้าท์มอย เพื่อทำให้ชีวิตมีรสชาติมากขึ้นกว่าเดิมเสียที เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับพยายามทำความเข้าใจกับเรื่องต่าง ๆ มากขึ้น และพยายามโอนอ่อนผ่อนปรนไปตามกระแส เพราะในโลกของความเป็นจริงไม่มีอะไรที่แน่นอนตายตัวนะจะบอกให้

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : กองทุนช่วยยัน

    เดิมทีเดี๊ยนเข้าใจว่า การเซ็ตตัวของดัชนีรอบใหม่จะไม่เหวี่ยงตัวขึ้นลงหวือหวา เพราะก่อนหน้านี้ได้มีการ take profit หุ้นออกไปบางส่วน จึงเหลือหุ้นที่จะเทขายออกมาอีกไม่เยอะ บวกกับนักเล่นส่วนใหญ่ไปรอช้อนของถูกเป็นส่วนใหญ่ ส่งผลให้การอ่อนตัวของดัชนีในเที่ยวนี้ไม่ใช่ปัญหาใหญ่โต แต่พอเอาเข้าจริงกลับตาลปัตรไปหมดทุกอย่าง..หุ้นควรจะลงกลับขึ้น หุ้นควรจะขึ้นกลับลงพะยะค่ะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : เลิกโลกสวย

    หากยังจำกันได้น่าจะรู้ว่า “โมนิก้า” พยายามพูดถึงตัวเลขกำไรแต่ละไตรมาสคือตัวแปรที่มีผลต่อการเดินหน้าของดัชนีอย่างมีนัยสำคัญ และทันทีที่ผลงานรวมของบริษัทในตลาดหุ้นไทยทรุดฮวบอย่างน่าใจหาย เท่ากับเป็นการย้ำหัวหมุดให้นักเล่นเลิกทำตัวเป็นพวกโลกสวยในทันที เพราะมันไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ แถมยังทำให้นักเล่นหลงกลเข้าไปเล่นเกมของคนอื่นแบบง่าย ๆ อีกด้วยนะจ๊ะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : แมงโม้ตายเรียบ

    หากเม้าท์กันตามตรงแบบเปิดอกคุยหมดทุกเรื่อง “โมนิก้า” คงโฟกัสไปที่ความผิดหวังในหลายเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นตัวแปรหลักที่ทำให้นักลงทุนกลุ่มต่าง ๆ พากันเทขายหุ้นทิ้งแบบไม่ลืมหูลืมตา เพราะภาพรวมของผลประกอบการในเที่ยวนี้ลดลงมากถึง 20% จากไตรมาสก่อน ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้นักเล่นกลุ่มสถาบันต้องลดน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในทันทีไงล่ะคะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : รีบออกของ

    หลายครั้งที่ตลาดหุ้นไทยดีดกลับขึ้นมาหลังจากรูดไปหนัก ๆ ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เข้ามาอย่างคับคั่งมักจะทำให้ทุกคนมีอารมณ์ร่วมอยู่เสมอ จนต้องเฮโลรีบเข้าเก็บจนสุดซอยหวังว่าหุ้นจะวิ่งไปได้อีกไกล แต่เหตุการณ์ดังกล่าวสุดท้ายมักจบลงด้วยการทิ้งนักเล่นไว้กลางอากาศอยู่เป็นประจำ จนหลายคนไม่อยากคาดหวังอะไรที่ไกลเกินตัวอีกแล้ว “โมนิก้า” ถือเป็นแนวคิดการลงทุนที่ใช้ได้ดีท่ามกลางบรรยากาศที่ยังขมุกขมัวถือเป็นการ Play Safe ของนักลงทุนที่มีประสบการณ์ตรงอย่างโชกโชนจึงปรับตัวให้รับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันพะยะค่ะ

Back to top button