คอลัมน์

  • Wait & See

    ตลาดหุ้นไทยไม่ค่อยตอบรับข่าวเชิงบวกซักเท่าไหร่

  • หมดแรงต้านทาน

    หากวิเคราะห์สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยจาก “แรงซื้อ” กับ “แรงขาย” ก็ต้องยอมรับโดยดุษฎีบัณฑิตว่า “หมดแรงต้านทาน” ดัชนีถึงห้อยหัวลงต่องแต่ง พร้อมกับแสดงอาการ “ขี้ผึ้งลนไฟ” ล้วนเป็นภาพที่ฟ้องให้รู้ว่า ไม่มีใครอยากจะถือหุ้นอีกต่อไป หลังจากตลาดหุ้นถูกรุมล้อมด้วยปัจจัยลบนานัปการ และหนึ่งในมูลเหตุที่ทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงเรื่อยๆ ก็หนีไม่พ้นราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลงอย่างหนักไงล่ะค่ะ

  • กระแสเสือโหน

    กรณีผู้บริหารธรรมาภิบาลสูงแห่ง CPALL และเครือCP 4 คน และผู้สนับสนุนอีก 2 คนถูก ก.ล.ต. ลงโทษปรับในข้อหาใช้ข้อมูลวงในซื้อขายหุ้นบริษัท สยามแม็คโคร เป็นข่าวใหญ่ไปทั่ว ย่อมเป็นธรรมดาที่ต้องมีควันหลง

  • ติดหล่มการเมือง

    โฆษกรัฐบาลแถลงเมื่อวันเสาร์ เร่งรัดหน่วยงานให้จูงใจบริษัทต่างชาติมาตั้งสำนักงานใหญ่ ซึ่งให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีมากมาย น่าชื่นชมรัฐบาลขยันกระตุ้นการลงทุน ออกมาตรการ Tax Holidays จนแทบจำไม่ได้ ก้าวหน้ากระทั่งให้เช่าแผ่นดิน 99 ปี ซึ่งถ้าเป็นรัฐบาลเลือกตั้ง มีหวังโดนถล่มยับ อ้าว ก็ไหนว่าประเทศไทยไม่เคยเป็นเมืองขึ้นใคร

  • สังคมข่าวหุ้น

    ดัชนีหุ้นไทยปิดตลาด 1,280.92 จุด ลดลง 16.90 จุด มูลค่าซื้อขาย 48,073 ล้านบาท หลังเจอแรงขายลดความเสี่ยงก่อนประชุมเฟดสัปดาห์นี้

  • แนวรับ  1,200 จุด

    มีคำถามในยามข่าวร้ายท่วมตลาดว่า โอกาสที่ดัชนีSET จะลงไปต่ำถึง1,200 จุด ภายในสิ้นปีนี้เป็นไปได้หรือไม่

  • พาราสาวะถี

    อุทยานราชภักดิ์ยังเป็นปมติดหล่มเกยตื้นของรัฐนาวาคสช. แม้วันนี้จะมีการเบี่ยงกระแสด้วยข่าวคราวการจับกุมมือโพสต์ผังทุจริตจากโครงการดังกล่าว พร้อมคำขู่มาจากผบ.ตร.ใครกดไลค์กดแชร์ให้ระวังเสี่ยงทำผิดต่อกฎหมาย แต่คำถามตัวโตที่เกิดขึ้นก็คือ ถ้าคนเผยแพร่ผ่านโซเชียลมีเดียผิดแล้วสื่อสิ่งพิมพ์ที่นำเสนอเรื่องนี้เหมือนกัน ท่านผู้มีอำนาจจะว่าอย่างไร

  • อนาคตหุ้นมือถือ

    ไม่น่าเชื่อ แต่ก็ต้องเชื่อแล้วว่า ยิ่งระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ ก้าวสู่ความทันสมัยในระบบ 4 จี แต่ความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อหลักทรัพย์ของบริษัทผู้ประกอบการมือถือทั้งหลาย กลับคลอนแคลนลงเป็นอันมาก

  • แตกกระเจิง?

    ดูเหมือนผู้คนในแวดวงตลาดหุ้นจะแตกกระเจิง กระซ่านสานเซ็นไปคนละทิศคนละทาง หลังจากเจอแรงเทขายถล่มออกมาไม่ขาดสาย จนดัชนีรูดทะลุแนวรับ 1,300 จุด ลงมาปิดที่ 1,297.82จุด ลบไป 9.16 จุด ด้วยมูลค่า 3.43 หมื่นล้านบาท ซึ่งตามตำรามีการวิเคราะห์เหตุการณ์ในลักษณะนี้ไว้ว่า ลงหนักแบบไม่มีวอลุ่ม แสดงว่าไม่มีใครอยากจะถือหุ้นติดไว้ในพอร์ตนะจะบอกให้

  • สังคมข่าวหุ้น

    ยกสายคุยกับนักวิเคราะห์ 3-4 คน บอกเกือบจะตรงกันว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทย เหมือนจะวิ่งลงไปหาจุดต่ำสุดก่อนหน้านี้ ที่ดัชนีลงไป 1,992 จุด โดยรอบนี้ อาจต่ำกว่านั้น ก่อนจะรีบาวน์ขึ้นมาได้บ้าง จากแรงเก็งกำไรในหุ้นที่ราคาลงไปต่ำกว่าพื้นฐานมากๆ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นตัวขนาดกลาง แลพะเล็ก ซะมากกว่า ทำให้ช่วยดันดัชนีได้ไม่มากนัก

Back to top button