คอลัมน์
-
กลับสู่พื้นฐาน
วิธีเอาชนะ "คุณตลาด" ของแกรห์มคือ ในการเข้าลงทุนเพื่อซื้อหุ้นหรือหลักทรัพย์ ควรมี “ส่วนต่างแห่งความปลอดภัย” ราคาหุ้นที่เข้าไปซื้อ ต้องต่ำกว่า “Intrinsic Value” หรือ “มูลค่าโดยเนื้อแท้” ของบริษัท เพื่อเป็นเกราะป้องกันความเสียหายจากการลงทุนหากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด
-
อัยการศึกทาปาก
หนังสือพิมพ์ The Guardian ของอังกฤษเพิ่งสัพยอกประเทศไทยยุครัฐประหารว่า ขายภาพ “เหนือจริง” (Surreal) เช่น จัดงานท่องเที่ยววิถีไทยเสนอภาพชนบทในอดีตเมื่อ 20-30 ปีที่แล้ว ขณะที่คำพูดคำจาก็ย้อนแย้ง เช่นอนุญาตให้ทำโพลล์ได้แต่ต้องไม่ใช่โพลล์ต้าน คสช. หรือบอกว่าไม่ได้จำกัดเสรีภาพสื่อแต่เสรีภาพต้องมีขีดจำกัด
-
สังคมข่าวหุ้น
ศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีตลาดหุ้นไทยลบเล็กน้อย เพราะคนเชื่อว่ากองทุนจะเข้ามาทำวินโดว์เดรสซิ่ง แต่นั่นเป็นแค่ความเชื่อ ที่เป็นความจริงได้น้อย เพราะผู้จัดการกองทุนนั้นไม่ใช่นักบุญ หากพวกเขามีสัมภาระต้องแบก คือเงินของผู้ถือหน่วย ดังนั้นต้องซื้อที่จุดทำกำไรได้
-
พาราสาวะถี
หนีไม่พ้นเสียงวิจารณ์อยู่แล้ว หลังจากที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้สัมภาษณ์นักข่าว เตรียมใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 แทนกฎอัยการศึก เนื่องจากอำนาจดังกล่าวนั้นถือว่ากว้างขวางไร้ขีดจำกัด ที่สำคัญคือ ยิ่งใหญ่เหนือกว่าอำนาจ 3 ฝ่าย ทั้ง นิติบัญญัติ บริหารและตุลาการ จึงมีทั้งคนเห็นดีเห็นงามและไม่เห็นด้วย
-
ในห้วงอารมณ์
ฉงนระคนตกใจยิ่งขึ้นไปอีก เมื่อผู้ว่าฯ กทม. หม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ ที่พวกเขาเลือกมากับมือแท้ๆ เสือกไสไล่ส่งให้อพยพไปเป็น “ชาวดอย” หากรับไม่ได้กับธรรมชาติการเป็นเมืองน้ำของกรุงเทพฯ
-
ทำใจเถอะ
พอถึงช่วงท้ายของสัปดาห์ทีไร มักมีเสียงบ่นพึมพำจากคนรอบข้าง “โมนิก้า” ดังระงมไปทั่วนาตาปี และเรื่องที่พูดส่วนใหญ่ก็หนีไม่พ้น “ดัชนีหลุดแนวรับ 1,500 จุด..แล้วอย่างไรต่อ??” ผนวกกับข้อมูลสำคัญทางการเงินส่งสัญญาณว่า ปัจจัยพื้นฐานกับราคาหุ้น เริ่มอยู่ในระดับที่ไม่เหมาะสมแบบนี้..โอกาสที่หุ้นจะขึ้นแรง คงมีความเป็นไปน้อยมาก จึงอย่าตั้งความหวังที่ไกลเกินตัวนะคะ
-
โอกาสในวิกฤต
สิ่งที่น่าสนใจก็คือ แม้ดัชนีวานนี้จะถล่มหนักไป 16 จุดเศษ แต่มูลค่าการซื้อขายกลับเบาบางอย่างมาก แสดงว่า แรงรับหุ้นต่ำ แรงขายจึงเทกระหน่ำง่าย เพราะคนที่คิดจะรับไม่มั่นใจว่า หุ้นจะต่ำลงไปกว่านี้อีกหรือไม่
-
สังคมข่าวหุ้น
ดัชนีหุ้นไทยหลุดแนวรับที่ 1,500 จุดแล้ว ส่วนบรรดาหุ้นบลูชิพ ก็ปรับลงเช่นกัน ทำให้ “บลจ.” หลายแห่ง ต่างสบช่องด้วยการออกทริกเกอร์ฟันด์มารองรับตั้งแต่วันนี้ ไปจนถึงปลายสัปดาห์หน้า มูลค่ารวมกันกว่า 5-6 พันล้านบาท เป้าหมายผลตอบแทนต่างกันไป แต่โดยเฉลี่ยก็ราวๆ 5%
-
พาราสาวะถี
ช่วงนี้พระพิรุณขยันเป็นพิเศษเทฝนลงมากระหน่ำกรุงเทพฯ ต่อเนื่อง จากเรื่องที่ปวดขมับจนไล่ให้คนเมืองหลวงที่กลัวน้ำท่วมไปอยู่บนดอย เล่นเอาหลายคนที่ได้ฟังออกอาการ “เอ๋อเหรอ” กันไปทีเดียว แต่ก็พอจะเข้าใจ คนที่เติบใหญ่มาท่ามกลางความสุขสบายและอาศัยอยู่ในกทม.มาช้านาน จึงมองปัญหาที่คนเห็นส่วนใหญ่เห็นว่าไม่ธรรมดาเป็นเรื่องปกติ
-
ตลาดเริ่มวาย
จริงๆ “โมนิก้า” ไม่อยากพาดหัวแบบรุนแรงเช่นนี้ แต่พอเหลือบดูมูลค่าการซื้อขายครึ่งวันเช้าที่มีแค่ 1.40 หมื่นล้านบาท ทั้งที่ปกติทั่วไปมีการซื้อขายในช่วงครึ่งวันเช้าอยู่ที่ระดับ 1.80-2.20 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นการตอกย้ำสิ่งที่เดี๊ยนได้พร่ำพรรณนาไว้เมื่อวันก่อนอย่างแจ่มแจ้ง จึงไม่ต้องไปสืบสาวราวเรื่องอะไรให้มากความ เพราะมันเป็นสถานการณ์ที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้นะคะ