ข่าวต่างประเทศ
-
หุ้นเอเชียห่อเหี่ยวหลังจีนเผยเป้าจีดีพีปีนี้
หุ้นเอเชียปรับตัวลงเป็นส่วนใหญ่เมื่อวานนี้หลังจากมีการชี้นำที่ซบเซาจากวอลล์สตรีท ขณะเดียวกันจีนกำหนดเป้าจีดีพีของปีนี้ประมาณ 7% ซึ่งถือเป็นเป้าการเติบโตที่ต่ำที่สุดในรอบ 11 ปี
-
ข่าวสั้นต่างประเทศ
ไก่แมคโดนัลส์ปลอดยาปฏิชีวนะ, สตรีเอเชียไม่ออมเงินเกษียณ, แอบบ์วี อิงซ์ซื้อฟาร์มาซีคลิกส์
-
บิลต์ เกตส์ รวยสุดในโลกอีกครั้ง
ฟอร์บส์ประกาศให้ บิลล์ เกตส์ รวยสุดในโลก โดยสามารถเอาชนะ คาร์ลอส สลิม นักธุรกิจเม็กซิโกได้อีกครั้ง ทรัพย์สินสุทธิของเกตส์เพิ่มขึ้นแค่ 3,000 ล้านดอลลาร์เป็น 79,000 ล้านดอลลาร์ ในปีนี้ซึ่งนับถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ทำให้เกตส์รวยสุดในโลกถึง 16 ปี ในช่วง…
-
นักลงทุนเชื่อมั่นตลาดเกิดใหม่อีกครั้ง
นักวิเคราะห์ชี้ สินทรัพย์ในตลาดเกิดใหม่มีมูลค่าต่ำกว่าจริงและอาจจะเรียกความสนใจจากนักลงทุนได้อีกครั้งหลังจากที่มีผลงานไม่ดีในเดือนธันวาคม
-
ตลาดหุ้นเอเชียตบเท้าเข้าแดนบวก
หุ้นเอเชียเริ่มต้นสัปดาห์ในแดนบวก การลดดอกเบี้ยของจีนเมื่อวันเสาร์ช่วยชดเชยการปิดตลาดลดลงในวอลล์สตรีทเมื่อวันศุกร์ ในขณะเดียวกันข้อมูลชี้ว่ามีการเติบโตอย่างลุ่มๆ ดอนๆ ในสองเศรษฐกิจสำคัญสุดของโลก
-
คาดธนาคารกลางจีนจะผ่อนคลายนโยบายอีก
นักเศรษฐศาสตร์ชี้การลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่สองในรอบสามเดือนของธนาคารกลางจีนไม่เพียงพอที่จะยับยั้งการชะลอตัวของเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก คาดธนาคารกลางจีนจะดำเนินมาตรการผ่อนคลายออกมาอีกเพื่อสร้างความมั่นใจว่าจีดีพีจะไม่โตต่ำกว่า 7% มากในปีนี้
-
ข่าวสั้นต่างประเทศ
เอ็นทีที โดโคโม-โนเกียร่วมพัฒนา 5 จี, “อาจิต เจน” ตัวเต็งแทนบัฟเฟตต์, ซัมซุงเปิดตัวกาแลกซี่เอส 6
-
แอร์เอเชียขาดทุนครั้งแรกในรอบ2ปี
ทั้งที่ราคาน้ำมันลดลง แต่แอร์เอเชียขาดทุนสุทธิ 428.5 ล้านริงกิตในช่วงไตรมาสสี่ โดยเป็นครั้งแรกในรอบสองปีที่ขาดทุน เนื่องจากขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มเป็น 647.6 ล้านริงกิต จาก 34.9 ล้านริงกิตในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
-
ทันทีที่เฟดขึ้นดอกเบี้ย ตลาดจะเลวร้ายเพียงไร?
ตลาดไม่ควรจะวิตกว่าธนาคารกลางสหรัฐจะมีความอดทนเพียงไร แต่ควรจะวิตกว่าเฟดกำลังจะขึ้นดอกเบี้ยรุนแรงเพียงไร
-
ทองจะกดดันมากขึ้นเมื่อเฟดใกล้ขึ้นดอกเบี้ย
แบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริลล์ ลินช์ชี้ ทองคำจะเจอกับแรงกดดันเพิ่มอีกในปีนี้เมื่อธนาคารกลางสหรัฐใกล้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากขึ้น อย่างไรก็ดี แนวโน้มทองคำจะมีความสดใสมากขึ้นในช่วงสองสามปีข้างหน้า โดยมีสโคปที่จะปรับตัวขึ้นเป็น 1,500-1,600 ดอลลาร์