พลวัต
-
คอลัมน์
แบงก์ชาติกับค่าบาท
เมื่อวานนี้ ก่อนเที่ยงเล็กน้อย ระหว่างที่มีการประชุม คณะกรรมการทางการเงิน (กนง.) ยังไม่จบสิ้นดี ค่าเงินบาทในตลาดเงินที่แข็งค่ามานานกว่า 2 สัปดาห์ที่ระดับใต้ 25.00 บาทต่อดอลลาร์ ได้กลับทะยานขึ้นเหนือ 25.00 บาทจนถึงภาคค่ำของวานนี้
-
คอลัมน์
ความเสี่ยงมาเยือน
แล้วตลาดหุ้นและตลาดน้ำมันขาขึ้นทั่วโลก ก็ถูกแรงระเบิด 2 ครั้งที่ บรัสเซลส์ เมืองหลวงของสหภาพยุโรปวานนี้ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 ราย และบาดเจ็บอีกกว่า 90 ราย ดึงรั้งให้ร่วงลงมาตามสัญญาณลบที่เกิดขึ้น แม้ว่า ผลลัพธ์ต่อเศรษฐกิจในภาพรวมของการก่อการร้ายที่เกิดขึ้น จะไม่กระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมมากนัก แต่ในทางจิตวิทยาของการลงทุน ความเสี่ยงที่เกิดขึ้น คือสัญญาณเตือนภัยที่ดีว่า เมื่อใดที่มันแวะมาเยี่ยมเยือน…
-
คอลัมน์
ฟองสบู่อันทรงเกียรติ
สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน โจว เซี่ยว ฉวน ออกมาเตือนว่า ยอดหนี้ในระบบการเงินของจีนที่สูงถึง 160% ของจีดีพี ต้องหามาตรการที่เหมาะสมมากำกับดูแลไม่ให้สูงเกินระดับน่าสุ่มเสี่ยง แต่เมื่อวานนี้ ตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้วิ่งบวกแรงจนดัชนีตลาดสามารถปิดระดับเหนือ 3,000 จุดได้เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 3 เดือน นับแต่ปลายเดือนธันวาคมเป็นต้นมา เพราะเหตุว่า CSFC บริษัทปล่อยสินเชื่อสำหรับเล่นหุ้นมาร์จิ้นของรัฐ…
-
คอลัมน์
สงครามลดดอกเบี้ย
เมื่อวันศุกร์ ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดที่ระดับเหนือ 17,600 จุด เป็นการปิดตลาดสูงต่อเนื่อง ในรอบห้าสัปดาห์ ขณะที่ดัชนี S&P 500 ก็ปิดระดับเหนือ 2,040 จุด ได้อีกเช่นกัน (จุดที่เหนือกว่าตอนปิดตลาดเมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา) และ ดัชนี IXIC ของตลาดแนสแดก ก็ปิดที่ตลาดใกล้เคียงกับแนวต้าน 5,000…
-
คอลัมน์
ค่าบาทขาลอย
เป็นช่วงเวลาอีกครั้ง ที่เงินบาทกลับแข็งขึ้นมาต่ำกว่า 25.00 บาทต่อดอลลาร์ เพราะเกิดจากกระแสฟันด์โฟลว์จากทุนเก็งกำไรข้ามชาติ เพราะเส้นทางขึ้นดอกเบี้ยอย่างช้าๆ ของเฟดฯเข้าทางตลาดหุ้นเอเชียและไทยพอดี
-
คอลัมน์
บอนด์ยีลด์-ดอกเบี้ยติดลบ
เมื่อวานซืน ธนาคารกลางญี่ปุ่นเดินตามรอยธนาคารกลางยุโรปหรือ ECB ด้วยการคงมาตรการดอกเบี้ยติดลบ และคง QE ต่อไป ผลลัพธ์ที่ตามมาคือ บอนด์ยีลด์ของพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นติดลบต่อไปอีก เนื่องจากคนแห่เข้าซื้อกันล้นหลาม
-
คอลัมน์
เยนแข็ง (หนูลองยา)
ตอนที่กองทุนเฮดจ์ฟันด์ระดับโลก เฮละโลกันเข้าซื้อเงินเยนญี่ปุ่น ในช่วงเวลาที่ราคาน้ำมันและดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกสัปดาห์แรกของปีดิ่งเหว จนกระทั่งกลางเดือนมกราคมค่าเงินเยนเทียบดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นไปมากถึง 2.5% อยู่ที่ระดับ 117 เยนต่อดอลลาร์ และแข็งขึ้นเทียบยูโร 2.1% ไปที่ 128 เยนต่อยูโร แข็งค่าสุดในรอบหลายปี ความพยายามของธนาคารกลางญี่ป่นจะสกัดการแข็งค่าเงินเงินเยนได้ออกมาด้วยการใช้ “ยาแรง” ซึ่งได้ผลตรงกันข้าม
-
คอลัมน์
สถานการณ์ที่อึมครึม
นักวิเคราะห์หุ้นในสำนักโบรกเกอร์ต่างๆ ของไทย มีข้อสรุปตรงกันเหมือนนัดแนะว่า เงินทุนส่วนเกินจากยุโรป ที่มาจากมาตรการของธนาคารกลางยุโรปหรือ ECB จะดันราคาหุ้นไทยให้วิ่งต่อขึ้นไปได้อีก การย่อยตัวไม่สามารถฝ่าแนวต้านขึ้นไปเหนือ 1,400 จุดเมื่อวานนี้ เป็นแค่การพักฐานระยะสั้น เพื่อลดความร้อนแรงธรรมดา โดยดูได้จากการซื้อสุทธิของต่างชาติเมื่อวานนี้เป็นตัวอย่างมากกว่า 2 พันล้านบาท และการซื้อล่วงหน้าในตลาดอนุพันธ์ เป็นทิศทางที่เลี่ยงไม่พ้นในระยะข้างหน้า
-
คอลัมน์
ว่าด้วยฟองสบู่
ในยามที่โอกาสวิ่งแรงโดยที่มีพักบางวันเล็กน้อยไม่มีนัยสำคัญของดัชนีตลาดหุ้นไทย ทำท่าทะลุ 1,400 จุดในสัปดาห์นี้อย่างร้อนแรงเข้าข่ายร้อนที่สุดในเอเชีย มีคำถามที่แทรกขึ้นมาว่า ภาวะนี้เป็นฟองสบู่เล็กๆ ได้หรือยัง
-
คอลัมน์
เดิมพันของ ECB
เช้านี้ก็คงรู้กันแล้วว่า กรรมการธนาคารกลางของยูโรโซน (ECB) ที่นำโดย นายมาริโอ ดรากี จะมีมติเกี่ยวกกับมาตรการทางการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของยูโรโซนที่ภาวะเงินฝืดครอบงำยาวนาน เพราะ ดัชนี CPI ยังอยู่ต่ำกว่าเป้าหมายระยะกลางที่กำหนดไว้ที่ 2% ซึ่งส่งสัญญาณว่า ความพยายามที่ผ่านมา ยังอยู่ห่างไกลมาก