พาราสาวะถี
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี
ย้อนกลับไปฟังเสียงของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่พูดถึง 14 นักศึกษาที่ถูกคุมขังแล้วถอดรหัสน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช.บอกว่า “กลุ่มนักศึกษานั้น ผมจะไม่ไปตำหนิเขา เพราะไม่ว่าจะเป็นกลุ่มใดก็ตาม ผมก็ถือว่าเขาเป็นพลังบริสุทธิ์ ซึ่งน่าที่จะทำประโยชน์ให้กับบ้านนี้เมืองนี้ได้อีกมากในอนาคต”
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี
น่าแปลกใจเป็นอย่างยิ่งจากท่าทีที่ประกาศกร้าวว่า “มีเบื้องหลัง” มาถึงวันนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ปรับเปลี่ยนท่วงทำนองความรู้สึกที่มีต่อนักศึกษา 14 คนซึ่งถูกจับกุมคุมขังอยู่ในเรือนจำเป็น “ห่วงใย” พร้อมเชื่อว่านักศึกษาเหล่านั้น “เป็นผู้บริสุทธิ์” เหตุใดจึงพลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังเท้าเช่นนั้น คาดเดากันไม่อยาก เพราะแรงกระเพื่อมที่ปรากฏทั้งจากคนในประเทศและต่างประเทศ
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี
ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจอะไรกับคำพูดของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เรื่องโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคที่บ่นเรื่องเป็นประชานิยมและทำให้หลายโรงพยาบาลเจ๊งไปแล้ว เพราะเป็นเรื่องปกติของคนที่บ่มีไก๊ ไร้ปัญญาในการบริหารจัดการงบประมาณ ที่ผ่านมา ถนัดแต่เสนอขอและใช้อย่างเดียว พอมาดูทั้งระบบในภาวะที่หาเงินเข้าประเทศไม่ได้ไปไม่เป็นจึงมองทุกอย่างเป็นปัญหา
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี
วันวานพาดพิงถึงเหตุผลที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่กล้าใช้มาตรา 44 ปลดหรือแขวน หม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. เพราะกลัวว่าเด้งไปรัฐบาลเองก็ไม่มีปัญญาแก้ปัญหาน้ำท่วมรถติดช่วงฝนตกหนักได้ ดังนั้น จึงอย่าเปลืองตัวดีกว่า อีกประการสำคัญเหมือนอย่างที่ท่านผู้นำว่าไว้ เมื่อคนกรุงเทพฯ เลือกเขามาใช้งานแล้วก็ต้องยอมรับชะตากรรม
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี
เว้นวรรคไม่เขียนถึงเลยนับตั้งแต่เกิดเรื่องเกิดราวกรณี “บิ๊กแจ๊ด” พลตำรวจโทคำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ถูกจับกุมด้วยข้อหาพกอาวุธปืนที่สนามบินญี่ปุ่น เพราะอยากรอดูปฏิกิริยาของคนกลุ่มต่างๆ ซึ่งก็ได้เห็นแล้วว่า พวกที่สุดโต่งคือเกลียดระบอบทักษิณ ก็ยังคงหาเรื่องเชื่อมโยงเป็นตุเป็นตะกันไปได้ นี่แหละคือหัวใจสำคัญของปัญหาว่า เหตุไฉนความตั้งใจที่จะสร้างความปรองดองขององค์รัฏฐาธิปัตย์ถึงสุ่มเสี่ยงเป็นหมัน
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี
ประสานเสียงกันเป็นปี่เป็นขลุ่ย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พลเอกอุดมเดช สีตบุตร บอกว่ากลุ่มนักศึกษาที่ออกมาเคลื่อนไหวเวลานี้มีกลุ่มการเมืองหนุนหลัง พร้อมกับบอกด้วยว่า มีหลักฐานในโซเชียลมีเดีย ตามมาด้วยการขู่สื่ออย่านำเสนอข่าวดังกล่าวเพราะเกรงว่าจะกระทบภาพรวมของประเทศ รวมทั้งเตือนให้นักศึกษาระวังอันตรายจากกลุ่มที่เห็นต่าง
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี
คำขู่ที่ว่าทำให้พ่อแม่เดือดร้อนของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ยกมาขู่กลุ่มนักศึกษาขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ในขณะนี้ เป็นภาพสะท้อนความอึดอัดของผู้นำที่มีกลุ่มเคลื่อนไหวต่อต้านการทำงานของรัฐบาล พร้อมๆ กับการประกาศใช้กฎหมายเล่นงานเด็ดขาด แต่ที่ยังไม่ลดราวาศอกก็ความไม่พอใจที่มีต่อสื่อ
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี
กลายเป็นเรื่องตรงข้ามกับคำเตือนของเหล่าบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ทั้งหลายแหล่ที่ได้เข้าไปพบเจ้ากรมการทหารสื่อสาร พร้อมฝากความปรารถนาดีไปยัง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้พูดให้น้อยลงเพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหาตามมาให้แก้ แต่ปรากฏว่าหลังจากที่ท่านผู้นำเดินทางกลับมาจากเมียนมาร์ แล้วเกาะโพเดียมแถลงข่าวก็ออกอาการฉุนเฉียว ด่ากราดนักข่าวไปหลายดอก
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี
ผ่านไป 83 ปีประชาธิปไตยไทยที่ทำท่าว่าจะเต็มใบ ครั้งหนึ่งเคยถูกมองว่าเป็นหัวหอกเป็นต้นแบบในการพัฒนาประชาธิปไตยของอาเซียน มาถึงวันนี้กลับถอยหลังกลับแม้แต่พม่ายังทำท่าว่าจะเดินแซงหน้า เหตุผลสำคัญที่เป็นตัวฉุดให้ประชาธิปไตยที่เปลี่ยนแปลงมาเกือบศตวรรษกระท่อนกระแท่นและยังเป็นประชาธิปไตยครึ่งใบหนีไม่พ้นการรัฐประหาร
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี
ถามหาประชาธิปไตยจากคนไทยโดยเฉพาะกลุ่มคนดีว่ากันว่าจะมีคำตอบร้อยแปดพันประการ ขนาดถึงขั้นที่ว่าหนึ่งเสียงของคนไม่เท่ากัน ก็สรรหามาสร้างวาทกรรมแบ่งชนชั้นกันแล้ว จึงไม่แปลกที่ประธานกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญอย่าง บวรศักดิ์ อุวรรณโณ จะหลุดปากพูดเรื่องชนชั้นของม็อบมีเส้นกับม็อบคนเสื้อแดงแบบลืมกำพืดตัวเองว่ากำลังทำหน้าที่อะไรอยู่