พาราสาวะถี
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
การเลือกที่จะไม่ตอบโต้หรือพูดถึงของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ ต่อคำถามจากนักข่าวประเด็น โทนี่ วูดซัม หรือ ทักษิณ ชินวัตร พูดผ่านคลับเฮาส์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลไทยต่อการแก้ไขปัญหาโควิด-19 ทั้งประเด็นการจัดซื้อวัคซีนและความสามารถในการบริหารประเทศนั้น เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว เพราะหากย้อนกลับไป จะมีก็แต่กองเชียร์ชนิดไม่ลืมหูลืมตาเท่านั้นที่สะใจ แต่ในแง่ของเนื้อหาสาระหรือข้อเท็จจริงแล้วมันต่างกันอย่างสิ้นเชิง
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
พยายามจะคุมรูปมวย รักษาอาการ แต่ทุกคำอธิบายของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจแต่การแก้ไขการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่นี้ มองมุมไหนก็เป็นการแก้ตัวไปทั้งสิ้น โดยเฉพาะต้นตอของการแพร่ระบาดไม่ยอมรับว่าเกิดจากสถานบันเทิงที่มีรัฐมนตรีของตัวเองเข้าไปเกี่ยวพันด้วย แม้ไม่ได้ไปแต่คนใกล้ชิดไป และที่สำคัญคือการเปิดให้บริหารยันสว่าง รวมกระทั่งมาตรการควบคุมตามกรอบเข้มข้นของกระทรวงสาธารณสุขที่ไม่ปฏิบัติตาม ถามหาความรับผิดชอบและคนรับผิดชอบจนถึงวันนี้ยังแถไปเรื่อย ๆ
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
สงกรานต์ปีนี้ไม่ต้องพูดถึงว่ากร่อยกว่าปีที่ผ่านมาหรือไม่ แต่นั่นไม่ใช่สาระสำคัญของประเทศ เวลานี้สิ่งที่คนไทยตระหนก หวาดกลัวกันเป็นอย่างมากคือ การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เกิดจากคลัสเตอร์ทองหล่อหรือโควิดรมต. ซึ่งแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วเนื่องจากเป็นสายพันธุ์อังกฤษ B.1.1.1.7 ด้วยเหตุดังว่าบ่ายวันนี้ ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจในฐานะผู้อำนวยการศบค.ได้เรียกประชุมศบค.ชุดใหญ่เพื่อเคาะมาตรการให้เข้มข้นขึ้นกว่าเดิม
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
สถานการณ์โควิดระลอกสาม คงต้องยอมรับสภาพเหมือนที่ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจลั่นวาจาด้วยความหงุดหงิดกระมัง อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด เพราะดูแล้วแนวโน้มของคลัสเตอร์สถานบันเทิงย่านทองหล่อรอบนี้ไม่เหมือนการระบาดในรอบแรก ทั้งด้วยจำนวนคนที่ติดเชื้อและการแพร่กระจาย สิ่งสำคัญคือตัวเชื้อที่นำไปแพร่ที่พบเป็นสายพันธุ์อังกฤษ ซึ่งว่ากันว่ามีความรวดเร็วในการแพร่กระจายได้ถึง 100 เท่าเลยทีเดียว จึงเป็นโจทย์สำคัญสำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขว่าจะรับมือกับการระบาดระลอกนี้อย่างไร
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
ยุ่งกันไปใหญ่แต่ก็ไม่ได้เหนือความคาดหมายเมื่อ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ต้องแอดมิทโรงพยาบาลที่บุรีรัมย์จากการติดเชื้อโควิด-19 โดยให้เหตุผลว่ามาจากการที่หน้าห้องคนสนิทไปเที่ยวผับย่านทองหล่อแล้วติดเชื้อ ท่ามกลางความสงสัยว่า ตัวท่านรัฐมนตรีได้ไปเที่ยวด้วยหรือไม่ แต่เมื่อเจ้าตัวยืนกรานว่าไม่ได้ไป ก็ต้องเป็นไปตามนั้น ซึ่งไม่หมดแค่นั้น วันเดียวกัน สรรเสริญ แก้วกำเนิด อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ก็ตรวจพบติดเชื้อด้วยเช่นกัน
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
เตือนไว้แล้วว่าการที่รัฐบาลโดยศบค.ประกาศว่าจะผ่อนคลายด้วยมาตรการต่าง ๆ เพื่อรองรับเทศกาลสงกรานต์ รวมไปถึงการอ้าแขนรับนักท่องเที่ยวเพื่อหวังเม็ดเงินมากระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศนั้น ให้ระวังว่าโควิด-19 จะกลับมาระบาดอีกกระทอก แล้วสุดท้ายก็เป็นไปตามนั้น หนนี้ต้นตอวกกลับไปเหมือนกับการระบาดในระลอกแรกคือเกิดจากสถานบันเทิง และก็เป็นจุดเดิมนั่นก็คือย่านทองหล่อ แต่ที่หนักข้อไปกว่านั้นคือ ดันมีข่าวรัฐมนตรีในรัฐบาลไปปรากฎกายในสถานที่ดังว่าด้วย
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
เข้าสู่เดือนเมษายน เดือนที่ผู้คนส่วนใหญ่ต่างตั้งตาเตรียมพร้อมสำหรับการพักผ่อนแบบเน้น ๆ ปีนี้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจได้เฮกันยาว ๆ ส่วนภาคเอกชนแล้วแต่ว่าสถานประกอบการไหนจะหยุดตามราชการหรือยึดเอาที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศไว้ แต่สงกรานต์ปีนี้ถือเป็นอีกปีที่คนไทยจะได้สาดน้ำกันประปราย เหตุที่ต้องบอกเช่นนี้ทั้งที่รัฐบาลประกาศขอความร่วมมือห้ามเล่นสาดน้ำ ประแป้ง ปาร์ตี้โฟม เพื่อป้องกันโควิด-19 แต่พอถึงเวลาก็น่าจะพบว่ามีบางแห่งที่ขอสนุกกันสักนิด
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
รู้อยู่แก่ใจเป็นอย่างดีกับคนที่ไร้อุดมการณ์ งานทุกวันคือการเชลียร์สอพลอคนที่ตัวเองไปสยบยอมอยู่ใต้อุ้งเท้าเผด็จการ ดังนั้น การออกมากระตุกสำนึกสำเหนียกของ จตุพร พรหมพันธุ์ ของ เสกสกล หรือ สุภรณ์ อัตถาวงศ์ คนที่ไม่สมควรได้รับฉายาว่าแรมโบ้อีสานอีกต่อไป ต่อการที่ประธานนปช.ชวนประชาชนร่วมระดมความเห็นจัดขบวนความคิดในวันที่ 4 เมษายนนี้เพื่อไล่ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ ด้วยการดักคอว่า ระวังจะถูกผสมโรงล้มสถาบัน ถือเป็นข้อกล่าวหาที่ถูกนำมาใช้อย่างพร่ำเพรื่อไปแล้วสำหรับรัฐบาลนี้
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
วันนี้ที่ทำเนียบรัฐบาลจะมีการถ่ายภาพหมู่ครม.หลังจากที่มีการขยับกันใน 4 ตำแหน่ง แต่มีรัฐมนตรีหน้าใหม่แค่ 2 ราย เพื่อขจัดปัญหาเสียงกวนใจจะได้ภาพถ่ายสวย ๆ เต็มไปด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนจึงจัดให้บุกเข้าสลายหมู่บ้านทะลุฟ้าเมื่อช่วงเช้าและเย็นของวันอาทิตย์ที่ผ่านมา พร้อมจับกุมผู้ชุมนุมมีทั้งเด็กและพระรวมอยู่ด้วยรวมทั้งหมด 99 คน กับข้ออ้างอันคลาสสิคในยุคเผด็จการสืบทอดอำนาจทุกอย่างยึดกฎหมายเป็นสำคัญและเป็นไปตามหลักสากล
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
แสดงออกถึงความมั่นใจถึงที่สุด ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจจึงได้ประกาศศักดาออกมาอย่างไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหม “ใครอยากตัดวงจรสืบทอดอำนาจก็แก้รัฐธรรมนูญให้ได้ก็แล้วกัน” แน่นอนว่า หากเป็นผู้นำที่มาจากการเลือกตั้งโดยปกติ ไม่มีใครกล้าที่จะท้าทายเช่นนี้ เพราะนั่นเท่ากับเป็นการฆ่าตัวตาย ทั้งจากการลุกขึ้นมาประท้วงของประชาชนเจ้าของอำนาจที่แท้จริง และจะสั่นคลอนด้วยพลังทำลายล้างขององค์กรต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นตามรัฐธรรมนูญ