อรชุน
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
ผ่านพ้นไปเรียบร้อยกับการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 หลังจากใช้เวลาอภิปรายกันยาวนาน 3 คืน 4 วัน ก่อนที่จะลงมติด้วยเสียงหนุน 253 เสียง ไม่เห็นด้วย 0 เสียง งดออกเสียง 196 เสียง ไม่ลงคะแนน 1 เสียง ท่ามกลางความโล่งอกดีใจของ…
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ในส่วนของสภาผู้แทนราษฎร วาระ 2 และ 3 จบกันวันนี้แน่นอน ที่เห็นใส่กันยับโดยเฉพาะงบของกระทรวงกลาโหมและกองทัพ มันเป็นบทที่จะต้องเล่นของพรรคฝ่ายค้าน แต่สุดท้าย เมื่อต้องยกมือโหวตเชื่อขนมกินได้ว่าไร้ปัญหา โดยที่ซีกรัฐบาลไม่ต้องกังวล เห็นมติของพรรคร่วมฝ่ายค้านที่ให้ฟรีโหวตไม่ว่าจะออกตัวอย่างไร ก็ทำให้เห็นแล้วว่าเรื่องงบประมาณที่รัฐบาลรออยู่ทางสะดวก
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐอเมริกากับอิหร่าน ยังคงมีสัญญาณไม่น่าไว้วางใจต่อเนื่อง เมื่อล่าสุด สถานีโทรทัศน์ของอิหร่านรายงานกองทัพพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่านหรือไออาร์จีซี ได้ทำการโจมตีฐานทัพอากาศของสหรัฐฯ ในอิรักด้วยขีปนาวุธมากกว่า 10 ลูก พร้อมกับขู่จะมีการตอบโต้ตามมาหากสหรัฐฯ ยังคงทำการรุกรานต่อเนื่อง ทั้งยังประกาศด้วยว่าไออาร์จีซีจะทำการโจมตีประเทศในภูมิภาคซึ่งเป็นเวทีให้สหรัฐฯ ใช้ในการรุกรานประเทศอื่นด้วย
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
เป็นธรรมดาของคนตั้งใจทำงานแต่การยอมรับจากพวกในพรรคยังไม่ดีขึ้น จึงเกิดอาการน้อยใจ ข่าว คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ให้คนเก็บของออกจากห้องทำงานภายในพรรคนั้น อาจเป็นสัญญาณบางอย่างแต่คงไม่ถึงขั้นที่จะโบกมือลากันเลยทีเดียว ตามที่แหล่งข่าวใกล้ชิดบอก แค่ขนย้ายของบางส่วนปรับห้องทำงานรับปีใหม่ แต่ที่ยอมรับคือผิดหวังต่อท่าทีของแกนนำบางคนที่คอย “เตะตัดขา” กันอยู่ตลอดเวลา
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
สถานการณ์โลกวันนี้ต่างจับตาไปที่ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐอเมริกากับอิหร่าน จากการที่ โดนัลด์ ทรัมป์ สั่งปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในกรุงแบกแดด เมื่อช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 3 มกราคมที่ผ่านมา สังหารพลตรีคาเซม โซไลมานี่ ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษ “คุดส์” วัย 62 ปี ผู้มีบทบาทสำคัญในการแผ่ขยายอิทธิพลของอิหร่านในตะวันออกกลาง เสียชีวิตพร้อมนายทหารรวม 8 คน สร้างความแค้นและประกาศเอาคืนอย่างสาสมจากฝั่งอิหร่านทันที
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
เริ่มโหมโรงฟาดฟันกันให้เห็นวิถีการเมืองน้ำเน่าเด่นชัดขึ้นเป็นลำดับการศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่มีผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจเป็นเป้าหมายหลัก ตามมาด้วยเสนาบดีที่ลากจูงกันมาตั้งแต่คราวรัฐบาลคสช. ซึ่งคงไม่ใช่เป้าหลอก และยังมีแนวโน้มว่าอาจจะมีรัฐมนตรีพรรคร่วมรัฐบาลพ่วงเข้ามาด้วย โดยกลุ่มหลังขึ้นอยู่กับปัจจัยการต่อรองหากสามารถอธิบาย ทำความเข้าใจกันได้ โดยที่ฝ่ายค้านเองก็ไม่มีหลักฐานชนิดจับให้มั่นคั้นให้ตาย ก็อาจต้องปล่อยผ่านกันไปก่อน
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
ขณะที่ฝ่ายค้านกำลังเตรียมการยื่นญัตติขออภิปรายไม่ไว้วางใจ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา พร้อมด้วยรัฐมนตรีตามที่ปรากฏเป็นข่าวไปก่อนหน้า โดยที่ยังไม่รู้ว่าจะซักฟอกกันในประเด็นไหนบ้าง ก็พอจะเห็นแนวทางการต่อสู้ทางการเมืองของฝ่ายรัฐบาลกันแล้ว เมื่อทั้งผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจและประธานคณะกรรมการยุทธ์ศาสตร์พรรคสืบทอดอำนาจ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันคือ อย่าไปยกเอารัฐบาลคสช.มาอภิปราย
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
ผ่านพ้นวันขึ้นปีใหม่มา 1 วัน ทุกคนล้วนได้รับคำอวยพรที่ถือเป็นพรอันประเสริฐสำหรับการเริ่มต้นชีวิตในปีใหม่ สิ่งที่ตั้งใจไว้ต้องเริ่มทำกันทันที เพราะวัน เวลานั้นไม่เคยคอยท่าและดูเหมือนว่าจะผ่านไปอย่างรวดเร็วเสียด้วย เช่นกัน วันวานเป็นวันแรกที่ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศพร้อมใจกันยกเลิกการใช้ถุงพลาสติกชนิดใช้ครั้งเดียวทิ้งหรือถุงก๊อบแก๊บ ความหนาน้อยกว่า 36 ไมครอน
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
เจอดีส่งท้ายปีในวันที่บอกว่าไปส่งประชาชนกลับบ้านที่สถานีขนส่งหมอชิต สำหรับ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อดันไปถามผู้หญิงคนหนึ่งที่แสดงออกทางใบหน้าอย่างเด่นชัดว่า ไม่สบอารมณ์ที่ได้เจอผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ กับคำตอบที่ว่า “เบื่อนายกฯ” ก่อนที่ท่านผู้นำจะทำใจดีสู้เสือตอบกลับว่าขอบคุณและพูดในทำนองว่าเบื่อประชาชนไม่ได้ เพราะยังไงก็เป็นคนไทยด้วยกันที่จะต้องทำทุกอย่างให้เต็มที่ ทั้งที่ในใจคงคิดอีกด้าน
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
เข้าสู่โหมดหยุดยาวกันเต็มพิกัด ขณะที่ภาคเอกชนยังมีฟันหรอวันที่ 30 ธันวาคม แต่ไม่ใช่สาระสำคัญ อารมณ์ บรรยากาศ ณ เวลานี้ คนคงไม่มีกะจิตกะใจที่จะสนใจเรื่องอื่น นอกเหนือจากการเดินทางท่องเที่ยว พักผ่อนและกลับภูมิลำเนา ส่วนภาครัฐก็มีภาระที่จะต้องเฝ้าติดตามเพื่อลดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาล แม้จะปฏิบัติกันมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน แต่สถิติตัวเลขที่เกิดขึ้นก็ยังสูงอยู่ เมื่อเป็นเช่นนั้นคงไม่ได้ขึ้นอยู่กับความเข้มงวดกวดขันของเจ้าหน้าที่ แต่เป็นเรื่องจิตสำนึกของคนใช้รถใช้ถนนกันล้วน ๆ