อรชุน
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
เห็นโฉมหน้าครม.ประยุทธ์ 2/1 กันแล้ว ยังไม่ต้องถามเรื่องว่า “ยี้” หรือ “ว้าว” แต่ไปดูเหตุผลก่อนว่าทำไมแกนนำกลุ่มสามมิตรถึงได้ออกอาการโวกวายกันสุดฤทธิ์ก่อนที่จะถูกขู่และยอมสยบไปแบบจำใจ ก็เพราะคนสำคัญในสายกปปส.พรรคเดียวกันที่เป็นไม้เบื่อไม้เมาได้ดิบได้ดีทั้ง 2 ราย ณัฐพล ทีปสุวรรณ นั่งว่าการศึกษาธิการ ขณะที่ พุฒิพงษ์ ปุณณกันต์ ขึ้นลิฟต์ไปว่าการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นี่ยังไม่นับรวม “หม่อมเต่า”…
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
ประกาศความพร้อม โชว์ความฟิต ด้วยการนัดประชุมครม.ประยุทธ์ 2 ทันที หลังจากเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตนแล้ว แต่ดูเหมือนว่าผู้นำเผด็จการยังคงอาลัยอาวรณ์หรือสลัดคราบความเป็นหัวหน้าคสช.ไม่หมด เมื่อแถลงหลังประชุมครม.นัดสุดท้ายเมื่อวันอังคารดักคอฝ่ายค้านว่า อย่าใช้สภาล้มรัฐบาล อย่าตีรวนในการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี โดยอ้างเหตุผลว่า ประชาชนทุกคนรออยู่ และรัฐบาลก็จะจัดสรรงบให้ทุกจังหวัดอย่างเป็นธรรม
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
ความจริงเรื่องการคุ้มครองพยานหรือดูแลบุคคลที่อยู่ในข่ายได้รับอันตรายจากพวกใจอำมหิต ลงมือทำร้ายร่างกายผู้บริสุทธิ์ท่ามกลางผู้คนในที่สาธารณะโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย ต้องเป็นหน้าที่ของฝ่ายที่มีอำนาจไม่ว่าจะตำรวจหรือทหารโดยปราศจากเงื่อนไข แต่รายของ “จ่านิว” สิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ กลับถูกยื่นข้อเสนอถ้าจะให้ดูแลต้องรับปากว่าจะหยุดเคลื่อนไหวทางการเมือง ตรงนี้สะท้อนให้เห็นถึงอาการปากกล้าขาสั่นของผู้เป็นเผด็จการได้อย่างดี
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
เห็นภาพการลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตพร้อมการปราศรัยกับประชาชน (จัดตั้ง) ครั้งแรกหลังได้รับตำแหน่งจากการโหวตของที่ประชุมรัฐสภา แม้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จะบอกว่าเป็นนายกรัฐมนตรีของทุกคน ทุกจังหวัด แต่มาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดประดุจไข่ในหิน มันกลับเป็นภาพแย้งกับสิ่งที่ตัวเองพูดโดยสิ้นเชิง เห็นได้ชัดว่า มีความพยายามจะทำตัวเหมือนนักการเมืองแต่ยังติดระบบเจ้าขุนมูลนายอยู่ ประชาชนที่อยากสัมผัสผู้นำประเทศใกล้ชิด ถ้าไม่ได้จัดตั้งกันมาอย่าหวังว่าจะได้เจอตัวเป็นเป็น
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
ยืนยันจาก วิษณุ เครืองาม ว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นำรายชื่อครม.ทั้ง 36 คนขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว เมื่อนักข่าวไปถามท่านผู้นำก็ได้รับคำตอบ “เดี๋ยวพวกเธอก็รู้ เดี๋ยวก็ลงมาแล้ว” ดังนั้น หลังจากนี้จึงต้องรอพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งลงมา ซึ่งไม่สามารถคาดเดาและมิบังควรเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นพระบรมราชวินิจฉัย
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
เล่นบทเตมีย์ใบ้และส่งยิ้มเป็นคำตอบให้กับนักข่าวสำหรับ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ถูกถามถึงโผครม.ประยุทธ์ 2 นำขึ้นทูลเกล้าฯ แล้วหรือยัง เป็นไปตามสูตรจับอาการอารมณ์ดีแสดงว่าทุกอย่างเป็นไปตามที่ต้องการ โดยเฉพาะการสกัดแรงกระเพื่อมภายในพรรคของตัวเอง ฟังเสียงมาจากคนใกล้ชิดในนามกลุ่มกปปส.บอกว่าภายใน 2-3 วันจะได้เห็นโฉมหน้ารัฐบาลใหม่ (หน้าเดิมเสียเยอะ) ก็คงจะเป็นไปตามนั้น
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
ยืนยันกับเด็กไทยในสหรัฐอเมริกาและผู้ปกครองที่เข้าพบในทำเนียบรัฐบาลตามโครงการเยือนแผ่นดินแม่ ครั้งที่ 12 ว่า ประเทศไทยจะได้รัฐบาลใหม่ภายใต้การนำของตัวเองในกลางเดือนนี้ นอกจากนั้น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังบอกด้วยว่า ดีใจที่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีที่มาโดยถูกต้อง ในเมื่อเชื่ออย่างนั้นก็ต้องให้ว่ากันไป แต่ถูกต้องแล้วถูกใจเป็นที่ยอมรับของประเทศที่จะคบค้าสมาคมด้วยหรือไม่ หลังจากรับตำแหน่งและเดินทางไปร่วมเวทีนานาชาติ ท่าทีที่ผู้นำประเทศต่าง ๆ จะแสดงออกจะเป็นเครื่องพิสูจน์
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
ฉากซ้ำซากในละครน้ำเน่าเป็นสิ่งที่ถูกพูดถึงเป็นประจำ แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังอยากดู ดังนั้น ฉากในการเมืองว่าด้วยเรื่องการแย่งเก้าอี้รัฐมนตรีกันดุเด็ดเผ็ดมันของพรรคพลังประชารัฐ ถึงขั้นที่กลุ่มสามมิตรงัดไม้เด็ดลงชื่อขับ สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ พ้นเลขาธิการพรรค ก่อนจะจบลงด้วยการตั้งโต๊ะแถลงข่าวของ อุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคและแกนนำสามมิตรทั้ง สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และ สมศักดิ์ เทพสุทิน จึงเป็นฉากที่ชินตาและน้ำเน่ายิ่งกว่าละคร
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
ปกติคำว่าไม่มีสัจจะจะใช้ในหมู่โจร แล้วสิ่งที่กลุ่มสามมิตรถูกเบี้ยวจากการจัดโผครม.ของรัฐบาลสืบทอดอำนาจจะเรียกว่าอะไรดี เรื่องนี้ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ สมศักดิ์ เทพสุทิน และ อนุชา นาคาศัย และกลุ่มสามมิตรรู้ซึ้งเป็นอย่างดี สุดท้ายก็เดินทางมาถึงจุดแตกหักเมื่อทั้งหมดประกาศขับ สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ คนที่มาแย่งเก้าอี้รมว.พลังงานสุริยะพ้นเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ สวนทางกับสารท่านผู้นำที่เพิ่งออกมาขอโทษประชาชนต่อความขัดแย้งที่เกิดขึ้น
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
เห็นอาการสะใจของพวกสุดโต่งต่อกรณี “จ่านิว” สิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ ถูกทำร้ายล่าสุด ที่อาการปางตายและอาจจะพิการตาบอด 1 ข้างก็เป็นได้ ด้วยเหตุผลเดียวเท่านั้นคือ อยู่คนละฝ่าย ถ้าผู้มีอำนาจ ผู้นำเผด็จการ เห็นไม่ต่างจากคนพวกนั้นก็ต้องบอกว่าบ้านเมืองน่าเป็นห่วง และถือเป็นทุรยุคอย่างที่ สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ว่าไว้อย่างแน่นอน เพราะการเพิกเฉยและเย้ยหยันต่อผู้ถูกกระทำเพียงแค่ความเห็นต่างถือเป็นอันตรายยิ่งของสังคม ยิ่งเป็นสังคมที่ได้ชื่อว่าประชาธิปไตย