อรชุน
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
ชัดเจนว่าขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ต่อความผิดพลาดในการถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบ ไม่ใช่การลาออกจากตำแหน่งตามที่มีการคาดหมายภายหลังจากที่เจ้าตัวแสดงท่าทีขึงขังต่อเรื่องดังกล่าว เมื่อผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจย้ำหนักแน่นว่า ยังคงเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป ไม่หนีหายไปไหน
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
เลื่อนไหลไปตามสถานการณ์ ใครได้ฟัง วิษณุ เครืองาม ออกลีลาเรื่อง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกาศขอแก้ไขด้วยตัวเองเรื่องการถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบ ต้องบอกว่าเหลือรับประทาน การโยนไปให้เป็นเรื่องของผู้นำสืบทอดอำนาจเพียงคนเดียวและบอกว่าก่อนที่จะพูดบิ๊กตู่ไม่ได้มาปรึกษาตัวเอง “พูดไปใครเขาจะเชื่อ” มีหรือประเด็นที่เกี่ยวข้องกับข้อกฎหมายผู้นำที่ฟังกระแสของประชาชนอยู่ตลอดเวลาจะไม่หารือกับเนติบริกรข้างกาย
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
เนติบริกรประจำรัฐบาลคงจะสบายใจหรือไม่ก็เป็นผู้ให้คำแนะนำเอง จึงทำให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกมาบอกกับนักข่าวหลังประชุมครม.เมื่อวันอังคารเกี่ยวกับปมการกล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญมาตรา 161 โดยท่านผู้นำระบุว่า “กำลังพยายามแก้ไขปัญหาอยู่” รู้ว่าผิดและเป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง แม้จะยืนยันว่ากระบวนการครบถ้วนสมบูรณ์ แต่เป็นความครบถ้วนที่ผิดพลาด ดันทุรังแก้ตัวไปไม่เกิดประโยชน์
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
แปลกแต่จริงบ้านนี้เมืองนี้จะเชื่อใครดี วันก่อน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา บอกให้จบประเด็นเรื่องการถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบได้แล้ว และอย่าเล่นการเมืองจนประเทศปั่นป่วน แต่วันวาน พลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก พูดถึงเรื่องระเบิดป่วนเมือง ซึ่งแม้จะมีการออกตัวว่าให้รอเจ้าหน้าที่ตำรวจรวบรวมหลักฐาน แต่ผบ.ทบ.ก็ปักใจเชื่อว่าเป็นกลุ่มเดิม พวกฝ่ายการเมืองตรงข้ามรัฐบาล ด้วยการยืนยันว่าพวกก่อเหตุมีความคิดที่ไม่ยอมรับและไม่เคารพกติกา ตอนนี้ขอให้ไปเล่นกันในสภาฯ
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
ปมกล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะรัฐมนตรี ในมุมของท่านผู้นำยืนยันว่าจบแล้ว พร้อมกับอ้างว่าตรงกับพระปฐมบรมราชโองการเรื่องการดูแลประชาชนและประเทศชาติ นอกจากนั้น ยังโจมตีฝ่ายตรงข้ามว่าอย่าเล่นการเมืองทำให้ประเทศปั่นป่วน ซึ่งคนจำนวนไม่น้อยไม่น่าจะคล้อยตามความเห็นเช่นนี้ของท่านผู้นำ
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
ระเบิด 9 จุดในพื้นที่กรุงเทพมหานครเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ยังทำงานไม่ครบ 24 ชั่วโมง แต่ฝ่ายกุมอำนาจทางการเมืองอย่าง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และฝ่ายกุมขุมกำลังอย่าง พลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ต่างฟันธงตรงกันและชี้ไปทางเดียวกันว่า เป็นเรื่องทางการเมือง เป็นการดิสเครดิตรัฐบาล และฟันธงไปด้วยว่าเป็นฝีมือกลุ่มเดิมแต่เปลี่ยนคนลงมือ รู้ลึกถึงขนาดนั้นต้องไม่ปล่อยให้คนร้ายลอยนวล
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
ออกมาปฏิเสธกันหน้าสลอนสำหรับแกนนำพรรคพลังประชารัฐ ต่อกรณีการย้ายมาซบของ “เสี่ยลาว”พรศักดิ์ เจริญประเสริฐ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ยุคยิ่งลักษณ์จากพรรคเพื่อไทย ไม่เกี่ยวกับเรื่องคดีความใด ๆ ไม่มีการใช้เรื่องดังกล่าวมาเป็นเครื่องมือต่อรองแต่อย่างใด สงสัยคงจะลืมกันไปว่า ยุคของรัฐบาลเผด็จการคสช.มีการตอกย้ำเรื่องคดีความของพรรคนายใหญ่อยู่บ่อยครั้ง และล่าสุดในการแถลงนโยบายรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ยังตอกย้ำในประเด็นดังกล่าว
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
น่าสนใจและเป็นข้อสังเกต เรื่องอะไรที่เนติบริกรประจำรัฐบาลมั่นใจจะตอบฉับไวและไม่ลังเล แต่กรณีการกล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบตามรัฐธรรมนูญมาตรา 161 ที่ ปิยบุตร แสงกนกกุล ยกขึ้นมาถาม พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในวันแถลงนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภานั้น คำตอบของ วิษณุ เครืองาม ไม่หนักแน่นเหมือนเดิม การที่บอกว่าไม่มีอะไรจะพูดและไม่ขอตอบ เพราะนายกฯ ตอบไปแล้วในสภาว่าเสร็จเรียบร้อยครบถ้วน ผ่านพ้นไปแล้ว มันดูแผ่วเบายังไงชอบกล
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
เป็นไปตามคาดการณ์แบ่งงานรองนายกรัฐมนตรีของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา พบว่างานที่ “พี่ใหญ่” พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เคยดูแลก่อนหน้าที่เกี่ยวกับความมั่นคงทั้งกลาโหม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่เว้นแม้กระทั่งกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ น้องเล็กขอรับกลับไปดูแลเอง ด้วยเหตุผลที่น่าจะทำให้คนเป็นพี่ปลื้มปริ่มน้ำตาไหล สุขภาพของบิ๊กป้อมไม่เอื้ออำนวย บวกกับการทำงานหนักช่วง 5 ปีที่ผ่านมา “ผมจึงอาสาแบ่งเบาภาระงานของพี่ใหญ่”
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
แถลงนโยบายรัฐบาลต่อที่ประชุมรัฐสภาเสร็จสิ้น จากนี้ไปคือภาระหนักอึ้งที่อยู่บนบ่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และรัฐนาวาสืบทอดอำนาจ ส่วนการชี้แจง ตอบโต้ฝ่ายค้านนั้น ถามว่าสอบผ่านหรือไม่ต้องบอกว่า ผ่านในแง่ของประเด็นเนื้อหา แต่ที่สอบตกทันทีคือการคุมอารมณ์ การประกาศตัดพี่ตัดน้องแล้วงอนตุ๊บป่องเดินออกจากที่ประชุมหลังปะทะคารมกับ พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส เป็นภาพสะท้อนชัดเจนว่า วุฒิภาวะทางด้านอารมณ์ของท่านผู้นำนั้นเป็นอย่างไร