อรชุน
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
ผลพวงจากการชุมนุมใหญ่ภายใต้การนำของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมเมื่อวันที่ 19-20 กันยายนที่ผ่านมา ยังคงมีความเห็นที่แตกออกเป็นสองสาย ซึ่งความจริงมันก็เป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว ฝ่ายสนับสนุนเผด็จการสืบทอดอำนาจ ก็ย่อมทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะดิสเครดิตและทำลายความชอบธรรมของฝ่ายเคลื่อนไหว ขณะที่ฝ่ายสนับสนุนก็ยังมองเห็นว่าสิ่งที่เป็นข้อเรียกร้องและการกระทำของขบวนการคนหนุ่มสาวในการชุมนุมหนล่าสุดนั้น ไม่มีอะไรที่อ่อนไหวและน่าเป็นห่วง
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
บอกตั้งแต่วันแรก หลังม็อบยุติสิ่งที่จะตามมาคือคดีความอีกพะเรอเกวียน ที่เห็นดำเนินการทันทีคือกรณีปักหมุดคณะราษฎรหมุดที่ 2 กลางสนามหลวง ทั้งกรมศิลปากร ตำรวจและกทม. ร่วมกันสหบาทาแจ้งความดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ 2504 มาตรา 32 ข้อหาบุกรุกโบราณสถาน หรือทําให้เสียหาย ทําลายทําให้เสื่อมค่าหรือทําให้ไร้ประโยชน์ซึ่งโบราณสถาน
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
การประกาศชัยชนะของม็อบที่มีแกนหลักคือแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ถือเป็นการกำชัยในแง่ของมวลชน และบรรลุเป้าหมายที่ได้ยื่นข้อเรียกร้องซึ่งแกนนำผู้ชุมนุมระบุว่าเป็นการถวายฎีกาผ่านผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ที่ยืนยันว่า จะดำเนินการให้ตามกระบวนการ และให้ผู้ชุมนุมสามารถติดตามความคืบหน้าของเรื่องที่ได้รับไว้ได้ตลอดเวลา ทว่า หลังจากนี้เชื่อว่าจะมีการดำเนินคดีกับแกนนำของผู้ชุมนุมตามมาอีกเป็นพรวน
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
วันพรุ่งนี้ ลุ้นกันม็อบกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม จะมีจำนวนมากขนาดไหน ชัดเจนคือในส่วนของกำลังตำรวจเตรียมไว้ 9 พันนาย ดูแล 14 จุดทั่วกรุง เน้นมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ สนามหลวง และอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ส่วนฐานที่มั่นของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจอย่างทำเนียบรัฐบาลนั้น ไม่ต้องห่วง มีการวางกำลังรับมือกันแน่นหนาอยู่แล้ว ที่ยกเอาประเด็นผิดกฎหมายชุมนุมสาธารณะหากเข้าใกล้ทำเนียบฯ ในรัศมี 50 เมตรนั้น…
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
ไม่ได้มีปัญหาอะไรให้ติดขัดทุกอย่างว่ากันตามกระบวนการ ทำกันเป็นพิธีกรรม ดังนั้น การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 ในวาระสองและสามของสภาผู้แทนราษฎร จึงไม่ได้มีอะไรติดขัด การอภิปรายของส.ส.พรรคฝ่ายค้านก็เป็นเพียงแค่การได้แสดงให้ฝ่ายที่สนับสนุนได้เห็นว่ามีการทักท้วง ติติงในสิ่งที่เห็นว่าไม่ชอบแล้ว สุดท้ายก็พ่ายแพ้เสียงข้างมากลากไป ซึ่งก็ถือเป็นวิธีปกติของกลไกที่ใช้เสียงข้างมากในสภา
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
ข่าวหุ้นธุรกิจฉบับที่อยู่ในมือท่านวันนี้ครบรอบปีที่ 26 และกำลังจะก้าวเข้าสู่ปีที่ 27 ท่ามกลางสถานการณ์ของประเทศที่ยังหาความแน่นอนไม่ได้ เช่นเดียวกับสถานการณ์ของแวดวงสื่อสารมวลชน ที่รูปแบบการเสพของผู้รับสารเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย แต่ทีมงานข่าวหุ้นทุกภาคส่วนก็ยังคงมุ่งมั่นผลิตสื่อที่มีคุณภาพเป็นกระบอกเสียงอิสระแห่งตลาดทุนกันต่อไป ด้วยความเข้มข้นในเนื้อหาและนำเสนอข่าวสารอย่างตรงไปตรงมา ชัดเจนในทุกประเด็น
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
ข่าวเรื่องการสลับฟันปลาเก้าอี้รัฐมนตรีของพรรคสืบทอดอำนาจ ไม่ใช่การปล่อยของผู้ไม่หวังดีหรือมาจากคนต่างพรรคอย่างแน่นอน แต่เป็นการโยนหินถามทางเพื่อดูว่าผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจจะเซย์เยสกับแผนนี้หรือเปล่า ถ้าไม่โอเคก็ค่อยให้ข่าวไปในทิศทางเดียวกันว่า เป็นเรื่องที่ไม่ได้มาจากพรรคแกนนำรัฐบาล แผนการง่าย ๆ ลูกไม้เก่า ๆ ที่ไม่มีทางจะไปกดดันให้ท่านผู้นำทำตามได้อย่างแน่นอน ก็รู้กันอยู่เก้าอี้เสนาบดีด้านเศรษฐกิจต้องปราศจากคนการเมือง
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
นับถอยหลังกันอีกไม่กี่อึดใจ 19 กันยายนม็อบใหญ่จะเกิดขึ้น แม้ว่ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ประกาศจะไม่ให้พื้นที่ของมหาวิทยาลัยที่ท่าพระจันทร์ในการจัดกิจกรรม แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เพราะตามเป้าหมายของหัวขบวน หากคนหลั่งไหลกันมาเกิน 5 หมื่นคนจะย้ายไปปักหลักกันที่สนามหลวงอยู่แล้ว หรือหากไม่ได้ได้รับอนุญาตให้เข้าไปใช้พื้นที่อีก ก็หนีไม่พ้นต้องยึดฟุตพาทและท้องถนนเป็นจุดรวมพล งานนี้อยู่ที่มวลชนว่าจะมาเข้ารวมกันมากขนาดไหน
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
จากคำว่า “มารยาท” ส่งผลให้ญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 ที่เสนอโดยพรรคก้าวไกลมีอันต้องตกไปทันที หลังจากที่มีการถอนชื่อของส.ส.ซีกพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา เมื่อคล้อยหลังจากนั้นไม่ถึง 24 ชั่วโมง พรรคเพื่อไทยก็ได้รวมรายชื่อ 6 พรรคร่วมฝ่ายค้านเสนอ 4 ญัตติขอแก้ไขรัฐธรรมนูญในทันที หนึ่งในนั้นก็มีเรื่องของมาตรา 272 รวมอยู่ด้วย เรียกว่าดิ้นกันอย่างไรก็หนีไม่พ้น
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
ผ่านพ้นกันไปกับญัตติการเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามมาตรา 152 ของรัฐธรรมนูญที่ยื่นโดยพรรคเพื่อไทย เป้าหมายคือเพื่อที่จะเสนอแนะรัฐบาลเกี่ยวกับปัญหาสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศ ไม่ได้มีอะไรใหม่ สิ่งที่อภิปรายกันก็เป็นประเด็นที่ปรากฏไปเป็นข่าวก่อนหน้านี้ทั้งหมด ส่วนรัฐบาลก็ตอบไปตามหลักการไม่ได้มีอะไรทำให้ยุ่งยากใจ ถือเป็นการยื่นตามสิทธิที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้เท่านั้น แต่ไม่ถึงขั้นที่จะเป็นการเปิดช่องให้รัฐบาลได้ฟอกตัวเองแต่อย่างใด