เจาะกระดานหุ้น
-
คอลัมน์
บลูชิพจัดเต็ม!
*ในที่สุดสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยก็เป็นเหมือนกับที่เดี๊ยนเม้าท์มอยไว้ทุกอย่าง หลังแรงซื้อพรั่งพรูเข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัว จนดัชนีพุ่งทะยานขึ้นมาปิดที่ 1,393.66 จุด บวกไป 22.97 จุด ด้วยมูลค่า 4.98 หมื่นล้านบาท มันเป็นภาพสะท้อนที่ทำให้โบรกเกอร์ต่างๆ รีบปรับเป้าดัชนีในทันที พร้อมกับแสดงความเชื่อมั่นแบบสุดโต่งว่า ดัชนีจะไปถึง 1,700-1,800 จุดกันเลยทีเดียวเจ้าค่ะ
-
คอลัมน์
พลิกผันได้ตลอด!
*วานนี้เป็นอีกครั้งที่ “โมนิก้า” หัวใจหล่นลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม ก่อนจะรู้สึกหายใจได้ทั่วท้อง หลังดัชนีแกว่งตัวออกทะเลในช่วงสายๆ ของการเทรด ก่อนจะทะยานขึ้นอย่างร้อนแรงในช่วงท้ายตลาด มันเป็นสถานการณ์ที่ทำให้นักเล่นวัยละอ่อนงงเป็นไก่ตาแตก เพราะก่อนหน้านี้ไม่กี่ชั่วโมง ดัชนีทำท่าจะทิ้งดิ่งลงไปแดนลบ จู่ๆ เด้งกลับขึ้นมาปิดที่ 1,370.69 จุด บวกไป 7.52 จุด ด้วยมูลค่า 3.79 หมื่นล้านบาท…
-
คอลัมน์
แรงจนน่ากลัว?
*ส่วนบรรยากาศการลงทุนวานนี้อาจสร้างความเฮฮาให้กับนักลงทุนรายย่อยก็จริง แต่อย่าลืมว่าปรากฏการณ์ดังกล่าวเกิดจากกระแสข่าวปล่อย ข่าวลวง รวมทั้งเป็นการหยั่งเชิงแรงซื้อไปในตัว “โมนิก้า” ถึงรู้สึกเฉยๆ ต่อการเหวี่ยงตัวไปมาของดัชนี เพราะเป็นเรื่องที่เคยพูดซ้ำแล้วซ้ำอีก และขอย้ำอีกครั้งว่า “นักลงทุนที่ขายหุ้นออกไปก่อนหน้านี้ ท้ายสุดก็ต้องกลับเข้ามาซื้อหุ้นอยู่ดี” นะจะบอกให้
-
คอลัมน์
ถอดใจ?
*เมื่อ “โมนิก้า” มองกลับไปที่พอร์ตซื้อขายหุ้นของนักลงทุนแต่ละประเภทเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา กลับกลายเป็นว่า โบรกเกอร์เป็นคนขายหุ้น 500 ล้านบาท ส่วนพลพรรคแมงเม่าก็ขายหุ้นออกมา 135 ล้านบาท ส่วนฝรั่งก็ซื้อหุ้นแบบเสียไม่ได้ 114 ล้านบาท ส่วนกองทุนก็ดักช้อนซื้อของถูกไปทั้งสิ้น 520 ล้านบาท มันเป็นภาพสะท้อนที่ทำให้เห็นว่า ทุกคนเริ่มมีอาการท้อแท้ จึงสลับกันซื้อขายหุ้นแบบเสียมิได้!
-
คอลัมน์
ลองมองมุมกลับ
*วันสุดท้ายของสัปดาห์นี้ แต่เป็นวันที่ 2 ของไตรมาส 4 ปี 58 “โมนิก้า” อยากพูดถึงเรื่องตัวเลขมากกว่าเรื่องอื่นๆ เพราะเรื่องดังกล่าวสามารถช่วยให้นักลงทุนเห็นภาพของตลาดหุ้นไทยได้ชัดเจนขึ้น ในขณะที่สภาพของตลาดหุ้นต่างประเทศเป็นเพียงแค่ตัวเร่งทางจิตวิทยา เดี๊ยนถึงต้องการให้นักลงทุนเข้าใจถึงพฤติกรรมของนักลงทุนกลุ่มต่างๆ เพื่อวิเคราะห์โอกาสของการลงทุนในรอบใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นพะยะค่ะ
-
คอลัมน์
1 เดือนดี 8 เดือนแย่
*จริงๆ “โมนิก้า” เป็นคนที่มีลักษณะนิสัยอ่อนโยน ชอบมองเรื่องต่างๆ เป็นโอกาสในการลงทุนเสมอ แต่บางครั้งก็ต้องทำตัวเป็นลู่ลมไปตามกระแส และไม่มีประโยชน์ที่จะฝืนธรรมชาติ เพราะยิ่งทำมากเท่าไหร่ ยิ่งเจ็บตัวมากขึ้นเท่านั้น สถานการณ์ของการลงทุนถึงหงอยเหงามากขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยเต็มไปด้วยแรงเทขายทำกำไรที่ออกมาจ่อถึงหน้าบ้านไงล่ะค่ะ
-
คอลัมน์
เด้งสู้
*หากนั่งวิเคราะห์การขยับตัวของดัชนีตลอดทั้งวันจะเห็นว่า ดัชนีพยายามเด้งสู้แรงเทขายที่มีออกมาตลอดเวลา เพียงแต่แรงซื้อในเที่ยวนี้ไม่มากพอ และยังเป็นแรงซื้อประเภทเข้าเก็บเมื่ออ่อนตัว ภาพของดัชนีถึงออกอาการตุปัดตุเป๋ต่อไปอีกหนึ่งวัน แถมยังหลุดแนวรับสำคัญทางจิตวิทยา 1,450 จุด ลงมายืนอยู่ที่ระดับ 1,348.84 จุด ลบไป 3.29 จุด ด้วยมูลค่า 4.37 หมื่นล้านบาท..มันเป็นเรื่องที่เดี๊ยนเพิ่งเตือนไว้เมื่อวันก่อนหยกๆ นะคะ
-
คอลัมน์
กลับมาที่เดิม!
วังวนของตลาดหุ้นไทยยังอยู่ที่การเคลื่อนย้ายเงินทุนของฝรั่งตาน้ำข้าวเป็นหลัก บวกกับท่าทีของปอบผีฟ้าที่ช่วงหลังๆ เน้นหนักไปในทางสาดหุ้นทิ้ง ขณะที่กองทุนเจ้าเล่ห์ยังคงเล่นบทสองหน้าต่อไปอย่างไม่มีกำหนด ส่วนแมงเม่ารับหุ้นเข้าไปในพอร์ตเนื้อๆ เน้นๆ เต็มๆ หัวใจ ล้วนเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ “โมนิก้า” นึกถึงวันเก่าๆ ในช่วงที่ตลาดหุ้นรูดลงอย่างต่อเนื่องไงล่ะค่ะ
-
คอลัมน์
window dressing
*คำอธิบายเกี่ยวกับการแกว่งตัวขึ้นๆ ลงๆ ของดัชนีที่ดีสุดในยามนี้ คงไม่มีอะไรเปรียบเทียบได้ดีเท่ากับอาการ “กล้าๆ กลัวๆ” เพราะแสดงให้เห็นถึงความไม่มั่นใจในการลงทุนที่ยังมีอยู่ในก้นบึ้งของหัวใจ จึงเลือกยุทธวิธีขายเมื่อดัชนียกตัวสูงขึ้น แล้วรอช้อนซื้อหุ้นเมื่ออ่อนตัวลงมา ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่พบเห็นได้เป็นประจำในช่วงที่ตลาดหุ้นขาดปัจจัยบวกใหม่ๆ เข้ามากระตุ้นความเชื่อมั่นพะยะค่ะ
-
คอลัมน์
เคลียร์แล้ว?
ความคลุมเครือของข่าวสารเป็นบ่อเกิดความวุ่นวายสารพัดเรื่องเท่าไหร่ สภาพของตลาดหุ้นไทยก็ยุ่งเหยิงพอกันเท่านั้น “โมนิก้า” ถึงไม่ค่อยสนใจกับข่าวสารที่เกิดขึ้นในแต่ละวันมากนัก เพราะวิเคราะห์เจาะลึกลงไปเมื่อไหร่ ก็กลายเป็นข่าวปล่อยออกมาจากขาใหญ่ทุกที(พวกอวดรู้) สภาพตลาดหุ้นถึงได้เอนไปเอนมาตลอดทั้งวัน จนมองไม่เห็นหนทางตีกลับอย่างมั่นคงพะยะค่ะ