เจาะกระดานหุ้น
-
คอลัมน์
เจาะกระดาน : วัดพลัง AWC
ก่อนจะเข้าสู่ช่วงของการเม้าท์แตก ข่าวเด็ด..ประเด็นร้อน อย่างเต็มตัว “โมนิก้า” ขอพูดถึงการแกว่งตัวไปมาทั้งในแดนลบและแดนบวกของดัชนี ก่อนจะจบลงตรงการยืนปิดที่ระดับ 1,616.18 จุด บวกไป 4.01 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.22 หมื่นล้านบาทสักเล็กน้อย เพราะอาการที่เกิดขึ้นทำให้รู้ว่า ตลาดหุ้นไทยยังไม่นิ่งพอ และยังมีโอกาสพลิกไปพลิกมาตลอดเวลา จึงไม่ควรเอาตัวไปยึดติดกับอะไรมากนะจ๊ะ
-
คอลัมน์
เจาะกระดาน : โดนหนัก..จนเป๋
ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา “โมนิก้า” มีความคิดเห็นเกี่ยวกับตลาดหุ้นไทยไปในทางบวกมากกว่าทางลบอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นผลมาจากตลาดหุ้นไทยดำดิ่งเข้าสู่โซนขายมากเกินไปเป็นเวลาหลายวัน จึงน่าจะถึงเวลาเด้งกลับอย่างแข็งแกร่งเสียที แต่ทันทีที่ดัชนีทะยานกลับขึ้นมาได้จริง ๆ ดันไม่มีวอลุ่มเข้ามาซัพพอร์ตอย่างที่ควรจะเป็น ภาพในมุมบวกที่เคยมีอยู่ในหัวเดี๊ยนเลยหายไปหมดในพริบตาไงล่ะคะ
-
คอลัมน์
เจาะกระดาน : ขึ้นแบบกลวง ๆ ?
“โมนิก้า” รู้สึกว่า ข่าวสารหลายอย่างที่ผ่านเข้าหูซ้าย ทะลุออกหูขวา ในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมานี้ จะเป็นเรื่องที่สร้างความหนักใจให้กับคนในแวดวงตลาดเงินและตลาดทุนอย่างรุนแรง (หุ้นจะไปต่อไหมหนอ!!) ส่วนกลุ่มเอสเอ็มอีที่อยู่นอกตลาดหุ้นก็เกิดอาการกระอักกระอ่วนใจจนพูดไม่ออก เพราะเงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง กำลังกลายเป็นอุปสรรคในการทำธุรกิจ และขัดขวางการบริหารเศรษฐกิจภายในประเทศ ส่งผลให้ผู้รู้ทั้งหลายแหล่กุมขมับกันถ้วนหน้านะคะ
-
คอลัมน์
เจาะกระดาน : ขายมากเกินไป ?
วันนี้ “โมนิก้า” ขออนุญาตเม้าท์ถึงเรื่องสัญญาณเทคนิครัว ๆ เพื่อระบายความอัดอั้นตันใจเมื่อเห็นดัชนียังไม่มีทีท่าจะผงกหัวขึ้นอย่างเป็นทางการ จึงต้องบรรยายเนื้อหาสำคัญเพื่อให้แฟนคลับได้รู้ถึงโอกาสที่ดัชนีจะอ่อนตัวลงอีกยังเปิดกว้าง แถมตัวแปรที่จะเข้ามาบิลต์อารมณ์ให้ฮึกเหิมก็ยังไม่ปรากฏให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรม เดี๊ยนถึงมีอาการเบื่อ ๆ เซ็ง ๆ เมื่อเห็นอาการนักเล่นกลุ่มสถาบันยังแทงกั๊กไม่เลิกน่ะซี
-
คอลัมน์
เจาะกระดาน : ฝืนธรรมชาติ
ตลาดหุ้นไทยวานนี้เป็นอีกครั้งที่ “โมนิก้า” ได้ยินได้ฟังเหล่านักเล่นหุ้นทั่วสารทิศร้องอุทานเป็นเสียงเดียวกันว่า หงอยเหงาเสียเหลือเกิ๊นนน ไล่เรียงตั้งแต่ดัชนีเซถลาลงหนักตั้งแต่เปิดการซื้อขายหุ้นตัวไหนที่ว่าเก๋าก็พากันโดนสาดออกมานอนกองอยู่กับพื้นจนแทบมองไม่เห็นหุ้น (ดี ๆ) ที่พอจะทำให้ชุ่มฉ่ำเสียบ้างเลย บรรยากาศการลงทุนถึงดูอึมครึมตลอดทั้งวันไงล่ะคะ
-
คอลัมน์
เจาะกระดาน : มะเขือเผาเรียกพี่
ช่วงนี้ดูเหมือนกระแสดราม่าเรื่องต่าง ๆ จะเยอะแยะเต็มไปหมด จนหลายคนเริ่มออกอาการคล้อยตามอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งที่เห็นกันทนโท่ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นมันมีเหตุผลที่ทำให้เกิดเช่นนั้น! บรรดามิตรรักแฟนเพลงจึงควรยอมรับความจริงของเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น เพื่อจะได้มองเห็นหนทางในภายภาคหน้าได้แจ่มแจ๋วขึ้นกว่าเดิม ซึ่งเป็นการป้องกันการคิดเข้าข้างตัวเองแบบสุดลิ่มทิ่มประตูไงล่ะคะ
-
คอลัมน์
เจาะกระดาน : ไม่ชัดเจน..ก็ลงต่อ
“โมนิก้า” ถือเป็นคนรุ่นใหม่ที่พยายามมองโลกในแง่ดีเสมอมา แต่สุดท้ายกลับไม่เป็นอย่างที่คาดคิดไว้แม้แต่นิดเดียว เพราะปัจจัยรอบด้านสร้างปัญหาที่หนักหน่วง จนทำให้เดี๊ยนต้องเปลี่ยนมุมมองไปในทางที่เลวร้ายลงเรื่อย ๆ นาทีนี้จึงไม่ต้องพูดถึงประเด็นความมั่นใจในการลงทุนจะกลับมาเมื่อไหร่ เพราะสิ่งที่ต้องควานหากันให้เจอก็คือ “ข่าวร้ายจะจบลงเมื่อไหร่??” พะยะค่ะ
-
คอลัมน์
เจาะกระดาน : งัดไม่ขึ้น
ถ้าวิเคราะห์สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยแบบละเอียด จะเห็นว่าดัชนียังคงวนเวียนไปมาอยู่ที่ระดับ 1,600-1,680 จุด โดยที่หุ้นบลูชิพยังมีอาการเมาหมัด เซื่องซึม หงอยเหงา คลำทางไม่เจอ แรงเทขายกระหน่ำทิ้งอย่างไม่ลดละ ผนวกกับ “กองทุนตัวจี๊ด” กับ “ฝรั่งตาน้ำข้าว” ทำตัวเป็นพวกลิงหลอกเจ้า บอกดัชนีจะไปเท่านั้นเท่านี้ แต่พอเผลอทีไร พี่ท่านกระหน่ำสาดหุ้นไม่เลี้ยง พร้อมกับข้ออ้างเดิม ๆ ต้องการลดความเสี่ยงนะจะบอกให้
-
คอลัมน์
เจาะกระดาน : โบรกฯ ดันท้ายตลาด
การเคลื่อนไหวของดัชนียังไม่อยู่กับร่องกับรอย ไล่เรียงจากการปรับตัวลดลงไปทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,630.39 จุด แต่สุดท้ายมีแรงซื้อช่วงท้ายตลาดฯ ลากให้หุ้นวิ่งกลับขึ้นมาแตะระดับ 1,643.76 จุด ปรับตัวขึ้น 7.01 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.99 หมื่นล้านบาท การแกว่งตัวลักษณะนี้มันเป็นแพตเทิร์นที่เคยได้เห็นกันมาแล้วหลายครั้ง ในเมื่อตลาดฯ ยังขาดปัจจัยชี้นำมักมีการแกว่งตัวแบบเสียทิศทางให้เห็นระหว่างวัน ดังนั้นการปรับตัวขึ้นแรงรอบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นช็อตอันตราย…
-
คอลัมน์
เจาะกระดาน : วนมาที่เดิม
วานนี้มีการตั้งคำถามการเล่นหุ้นเที่ยวนี้มีอะไรที่เป็นปัญหาสำหรับนักเล่น “มือเก่า” และ “มือใหม่” บ้างไหม? และคำตอบที่เดี๊ยนได้รับจากนักเล่นหลายรายก็หนีไม่พ้นคำว่า ทำไมหุ้นไม่ขึ้นสักที! ซึ่งเป็นอีกครั้งที่ทำให้รู้ว่า นักเล่นกำลังติดกับดักทางความคิดของตัวเอง และมีการประเมินทิศทางตลาดหุ้นสวยหรูเกินความจริง จึงเกิดอาการทุกข์ระทมขมขื่นทางจิตใจไม่เว้นในแต่ละวันเจ้าค่ะ