เจาะกระดานหุ้น

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : ดูที่ผลงาน

    *ก่อนอื่นต้องบอกให้นักลงทุนเข้าใจตรงกันว่า เดี๊ยนจั่วหัวข่าวว่าด้วยเรื่อง “ดูที่ผลงาน” ไม่ได้มีเจตนาให้นักลงทุนมีอารมณ์คล้อยตามไปกับเรื่องการเมืองที่กำลังดุเดือดเลือดพล่านในเวลานี้หรอก ! เพราะอยากให้นักลงทุนพุ่งเป้าไปที่เรื่องผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ยังไม่มีตัวไหนโดดเด่นเข้าตากรรมการแบบเต็ม ๆ จึงต้องเคาะขวาเบา ๆ เพื่อไม่ให้ตัวเองถลำลึกลงไปมากกว่าที่เป็นอยู่เจ้าค่ะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : เดจาวู

    * ทันทีที่เห็นการเคลื่อนไหวของดัชนีวานนี้ ทำให้ “โมนิก้า” รู้สึกเหมือนเดจาวู เพราะการที่ดัชนีดีดกลับขึ้นไปบวกจากแรงซื้อกลับหลังดัชนีลงมาแรง ๆ ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ไม่ถึง 4 หมื่นล้านบาท มันเป็นแพตเทิร์นที่เคยได้เห็นกันมาแล้วหลายครั้งในวันที่ปัจจัยรอบด้านยังไม่ชัดเจน ดังนั้นการที่ดัชนีมาปิดที่ระดับ 1,632.32 จุด บวกขึ้นไป 6.41 จุด หรือ 0.39% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย…

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : 1,620 จุดยังไหว ?

    *สถานการณ์ตลาดหุ้นไทยวานนี้ไม่ได้ผิดแปลกไปจากการคาดคะเนของใครหลาย ๆ คนจากก่อนการเลือกตั้งทั้งกองทุนทั้งฝรั่งหัวทองต่างตั้งหน้าตั้งตาเก็บหุ้นไทยเข้าพอร์ตจนดันดัชนีบวกแรง 2 วันติด ก็ถึงเวลาปล่อยของออกมาตามระเบียบหุ้นไทยถึงลงมาปิดที่ระดับ 1,625.91 จุด ปรับตัวลดลง 20.38 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 47,064.83 ล้านบาท ส่วนแมงเม่าสายลุยเข้ามาเก็บของอีกรอบหลังจากท้ายสัปดาห์สาดหุ้นทำกำไรโครมใหญ่ช่วงดัชนีขาขึ้น ใครที่ถือคติเข้าเร็วออกทันถือว่าอ่านเกมหุ้นออกเจ้าค่ะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : ว่ากันด้วยสถิติ !

    *ถือเป็นอีกครั้งที่ “โมนิก้า” ขอหยิบยกข้อมูลทางสถิติที่เคยพูดเอาไว้มาตีแผ่ให้เห็นภาพชัดเจนกันอีกทีถึงสถานการณ์ทางการเมืองที่ส่งผลต่อตลาดหุ้นไทย ว่ากันว่าก่อนเลือกตั้งดัชนีจะวิ่งขึ้น และทุกสิ่งก็เป็นไปตามคาด ดัชนีท้ายสัปดาห์ถึงขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,646.29 จุด บวกไป 12.29 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.65 หมื่นล้านบาท หากแต่สิ่งที่ต้องติดตามต่อเป็นเรื่องของการปรับตัวลงภายหลังการเลือกตั้ง ฉะนั้นสิ่งที่นักเล่นต้องรับมือวันนี้เป็นเรื่องของแรงขายที่ต้องบริหารพอร์ตให้เข้ากับสถานการณ์ตลอดเวลาจึงจะอยู่รอดเจ้าค่ะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : ขึ้นก่อนเลือก..ลงหลังเลือก ?

    *หากมองตัวเลขการลงทุนในมุมต่าง ๆ ของตลาดหุ้นไทยยามนี้ “โมนิก้า” เชื่อเหลือเกินว่านักเล่นส่วนใหญ่ยังมองไปที่ผลการเลือกตั้งเป็นหลัก เพราะเป็นปัจจัยที่ส่งผลโดยตรงกับการเคลื่อนตัวของดัชนี และยังเป็นตัวที่บ่งบอกถึงเสถียรภาพทางการเมืองอีกด้วย เดี๊ยนถึงเห็นแรงซื้อผลุบ ๆ โผล่ ๆ ตลอดทั้งสัปดาห์ หลังเก็งล่วงหน้ากันไม่ถูกว่า ทุกอย่างจะราบรื่นจริงไหมนะซี

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : ฝันค้าง (อีกแล้ว)

    *วันก่อนเดี๊ยนเพิ่งแสดงอาการกระดี๊กระด๊าออกนอกหน้าได้ไม่ทันไร เผลอแป๊บเดียวต้องมานั่งซึมเศร้าเหงาหงอยเพราะตลาดหุ้นไม่เป็นเหมือนกับที่คิดไว้ เพราะแรงซื้อที่เคยคิดไว้ว่าน่าจะไหลเข้ามาต่อเนื่องเป็นวันที่สอง กลับแปรเปลี่ยนเป็นแรงเทขายตลอดทั้งวัน ส่งผลให้ดัชนีแกว่งตัวไปมาทั้งในแดนบวกและแดนลบ ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 1,627.62 จุด ลบไป 2.47 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.64 หมื่นล้านบาทแบบเซ็ง ๆ ไงล่ะคะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : ฟิลลิ่งเริ่มมา

    *ในช่วงระยะเวลา 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา “โมนิก้า” นั่งเฝ้าหน้ากระดานหุ้นแบบไม่กะพริบตา เพราะต้องการเห็นอารมณ์ของนักเล่นที่มีต่อข่าวสารใหม่ ๆ เข้ามากระทบกับตลาดหุ้นเป็นไปในโทนไหน ? รวมทั้งต้องการพิสูจน์ทฤษฎีที่ว่า ตลาดหุ้นไทยเป็นอิสระจากปัญหาทางด้านการเมืองยังใช้ได้อยู่หรือไม่ ? และผลสรุปในเบื้องต้นที่ออกมาทำให้รู้ว่า ขึ้นอยู่กับนักเล่นอินกับข้อมูลด้านไหนมากกว่ากันพะยะค่ะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : ตลาดหุ้นกลัวการเมือง

    *ก่อนหน้านี้ “โมนิก้า” เคยมองเรื่อง “ตลาดหุ้น” กับ “การเมือง” เป็นคนละประเด็นกัน และไม่มีส่วนสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญ เพราะในช่วงที่บ้านเมืองวุ่นวายถึงขั้นเผาบ้านเผาเมือง บริษัทจดทะเบียนก็สามารถประคองกิจการได้อย่างยอดเยี่ยม และยังสามารถเบ่งกำไรสวย ๆ ออกมาให้ชมกันเป็นระยะ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องชมเชยความสามารถของผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนอย่างแท้จริงนะคะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : โดนทุบ (อีกแล้ว)

    *ดัชนีท้ายสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลดลงอย่างหนักอีกครั้ง ด้วยการเคลื่อนตัวแบบสุดสวิง “โมนิก้า” มองว่านักเล่นคงได้เห็นภาพการแกว่งตัวขึ้น ๆ ลง ๆ ไปอีกสักระยะ จึงต้องพยายามที่จะปรับพอร์ตให้รับกับสถานการณ์มากขึ้น เพราะอาจจะยังมีควันหลงจากการขายเข้ามาอีกระลอก สังเกตได้จากแรงขายออกมาหนัก ๆ ทำให้ดัชนีดิ่งพสุธาลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 1,625.41 จุด ปรับตัวลดลงถึง 10 จุด มาปิดที่ระดับ 1,625.57…

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : รักษาฐาน

    *หากย้อนกลับไปดูเรื่องเม้าท์เก่า ๆ ก่อนหน้านี้ จะเห็นว่า เดี๊ยนให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนฐานแนวรับมากกว่าปัจจัยภายนอกอื่น ๆ เพราะมันเป็นสเต็ปที่บอกให้นักเล่นได้รู้ถึงการเคลื่อนตัวของดัชนีอยู่ในทิศทางใด ? ซึ่งช่วยให้นักเล่นเคาะซ้ายเคาะขวาได้คล่องตัวขึ้นกว่าเดิม รวมทั้งเป็นการจำกัดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้เป็นอย่างดี เลยขอเม้าท์ถึงเรื่องดังกล่าวมากหน่อยนะคะ

Back to top button