เจาะกระดานหุ้น

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : กองทุนดันหุ้น!

    * ก่อนอื่น “โมนิก้า” ต้องขอพูดกันตรง ๆ ว่า การลงทุนในตลาดหุ้นไทยเป็นเรื่องยากสำหรับทุกคนจริง ๆ เพราะการไต่เพดานบินสูงของดัชนีในเที่ยวนี้ ล้วนเกิดจากน้ำมือของกองทุนตัวแสบที่เข้ามาไล่ซื้อหุ้นแบบไม่ยั้งมือ บวกกับไม่ได้อธิบายเหตุผลการเข้ามาเก็บหุ้นให้สังคมได้รับรู้ ส่งผลให้ทิศทางของตลาดหุ้นไทยตกอยู่ภายใต้เงื้อมมือนักเล่นกลุ่มดังกล่าวอย่างเต็มตัวไงล่ะคะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดานหุ้น : เล่นท้ายตลาด

    *ตลาดหุ้นไทยขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,607.27 บาท บวกไป 11.69 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.83 หมื่นล้านบาท ในระหว่างวัน แรงซื้อกับแรงขายสู้กันอยู่ตลอด จึงได้เห็นดัชนีลงไปสู่จุดต่ำสุดที่แถว 1,586.34 จุด และเด้งกลับขึ้นมาอยู่ในแดนบวกในช่วงท้ายตลาดแบบหน้ามือเป็นหลังมือ การสวิงตัวในลักษณะนี้ “โมนิก้า” มองเป็นการเคาะของพวกชอบเล่นทีเผลอที่เข้ามาดันตอนท้ายและพร้อมจะเทขายออกมาได้ตลอดเวลา หากใครที่ไม่ได้หงายการ์ดป้องกันเอาไว้ระวังจะล้มเสียหลัก เพราะอย่าลืมว่าตัวเลข…

  • คอลัมน์

    เจาะกระดานหุ้น : หุ้นไทยแพง?

    *เมื่อปลายสัปดาห์ก่อน “โมนิก้า” ได้มีเวลานั่งอ่านข่าวสารบนเว็บไซต์ข่าวหุ้น หรือ www.kaohoon.com แบบละเอียดทุกบรรทัด จนสุดท้ายมาสะดุดใจเอาที่เรื่องหุ้นไทยแพงเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นทั่วโลก เลยเกิดอาการหัวใจสั่นระรัวไม่เป็นจังหวะ เพราะไม่นึกไม่ฝันว่า ทีมกระจอกข่าวหัวเห็ดจะเป็นคนเอาข้อมูลดังกล่าวมาตีแผ่ เพื่อทำให้สังคมหุ้นได้เข้าใจถึงเหตุผลที่ฝรั่งดองทิ้งหุ้นไทยไม่เลิกนะคะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดานหุ้น : คอตกเป็นแถว

    *สิ่งที่ “โมนิก้า” อยากให้แฟนคลับตั้งสติให้ได้มากที่สุด และพยายามนึกถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายทั้งปวง เพราะต้องการให้แฟนคลับรู้จักแยกแยะเรื่องต่าง ๆ อย่างเป็นระบบ ไม่ใช่มีความเชื่องมงายแบบไม่ลืมหูลืมตา และพากันเข้ารกเข้าพงลึกไปเรื่อย ๆ จนหาทางออกไม่เจอกันสักทีนั้น มันเป็นเรื่องที่น่าเบื่อสุด ๆ เพราะท้ายสุดก็ต้องมานั่งปลอบใจเมื่อสายเกินไปเสียแล้วนั่นเอง!

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : พักเรื่องหุ้น..ดูเรื่องวุ่น

    *ก่อนอื่นต้องบอกกับแฟนคลับอันเป็นที่รักก่อนว่า ในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา “โมนิก้า” วุ่นวายอยู่กับการประเมินแนวรับของดัชนีที่แข็งแกร่งว่าอยู่บริเวณไหน? เลยไม่มีเวลาไปเผือกเรื่องชาวบ้านเหมือนเมื่อก่อน และในเมื่อเดี๊ยนได้ทำการบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ชาวหุ้นได้รับรู้แบบหมดเปลือก เลยเหลือเวลาไปจุ้นจ้านเรื่องไม่เป็นเรื่องของบรรดาบริษัทต่าง ๆ อีกรอบไงล่ะคะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : 1,600 แนวเด้งกลับ

    *หากมองสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยอย่างเป็นระบบระเบียบจะเห็นว่า ตลาดหุ้นไทยมักมีอะไรที่ฝืนธรรมชาติเป็นประจำ จนทำให้การลงทุนเต็มไปด้วยอุปสรรคนานัปการ เพราะบางเรื่องควรปล่อยให้สะเด็ดน้ำเสียก่อน แต่มักจะมีอะไรบางอย่างทำให้เชื่อว่า ปัญหาหลายอย่างจบแล้ว! สุดท้ายเลยทำให้สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยแย่ลงกว่าเดิมไงล่ะคะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดานหุ้น : เปิดบวก..ปิดลบ

    *จริง ๆ “โมนิก้า” ไม่อยากจั่วหัวออกมาในทำนองนี้ แต่เผอิญเหตุการณ์เดิม ๆ เวียนมาบรรจบอีกรอบ จึงไม่มีทางเลี่ยงไปพูดอย่างอื่น ผนวกกับประเด็นดังกล่าวก็เชื่อมโยงกับสิ่งที่อีเมี้ยนปากมากอย่างอีฉันได้เกริ่นนำไว้เมื่อวันก่อน จึงอยากกระตุกต่อมความคิดของนักลงทุนอีกสักรอบ หลังจากนั่งบวกลบคูณหารอย่างละเอียดแล้วพบว่า “ขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่ เหลาลงไปเป็นบ้อง..” นะซี

  • คอลัมน์

    เจาะกระดานหุ้น : พึงสังวรณ์

    * สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในยามที่ผู้เล่นหลักกลับมาเป็นผู้เป็นคนเหมือนปกติ อะไรต่อมิอะไรก็ดูดีไปหมดเสียทุกอย่าง ทำให้แรงซื้อก็พรั่งพรูเข้ามาเป็นจำนวนมาก จนดัชนีพุ่งขึ้นไปถึงระดับ 1,648.74 จุด แต่หลังจากนั้นกลับโดนกระหน่ำย่ำยีอย่างหนักหน่วง จนดัชนีร่วงลงไปที่ 1,628.16 จุด ก่อนจะเด้งกลับขึ้นมาปิดที่ 1,634.98 จุด บวกไป 0.54 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5 หมื่นล้านบาท…

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : กลัวก็ต้องถอย!

    *หากติดตามสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยอย่างกระชั้นชิดจะรู้ว่า ลักษณะการเล่นของพวกนักลงทุนสถาบันจะเป็นแบบ “เข้าทำ รีบชิ่ง” ออกทันที พร้อมกับมีการอารัมภบทไปเรื่อยเปื่อย ขณะที่แมงเม่าพันธุ์อึดกลับใช้ยุทธวิธี “ลงซื้อ ขึ้นขาย” กันอย่างแพร่หลายนั้น “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องของสูตรใครสูตรมัน ไม่มีอะไรตายตัวเหมือนในตำรา เพราะสิ่งที่ทุกคนต้องยึดถือเป็นสรณะคือ “กำไร” นะจะบอกให้

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : สะเด็ดน้ำ?

    *วันนี้ “โมนิก้า” ขออนุญาตจั่วหัวบทสนทนาพูดคุยกันแบบตรง ๆ เพื่อสื่อสารกับมิตรสหายทั่วราชอาณาจักรตลาดหุ้นว่า การเด้งขึ้นอย่างร้อนแรงก่อนจะมาปิดที่ 1,664.26 จุด บวกไป 24.72 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6 หมื่นล้านบาท มันเป็นแรงซื้อที่แท้จริงของการกลับเข้ามาลงทุนใช่ไหม? และเป็นการรีบาวด์เพื่อทำกำไรในระยะสั้นหรือเปล่า? จึงต้องพูดถึงเรื่องนี้เพื่อทำให้แฟนคลับมองเห็นความเสี่ยงในอนาคตได้ชัดขึ้นกว่าเดิมไงล่ะคะ

Back to top button