เจาะกระดานหุ้น
-
คอลัมน์
กองทุนซื้อคืน
สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยวานนี้เป็นอีกหนึ่งบริบทที่พิสูจน์ให้เห็นว่า กลุ่มนักเล่นที่ทำให้ดัชนีแกว่งตัวอย่างหนักหน่วงมีแค่ “กองทุนตัวแสบ” กับ “ฝรั่งตาน้ำข้าว” จึงไม่ต้องแปลกใจกับท่าทีที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เพราะทั้งหมดมันเป็นการว่าด้วยเรื่อง มันนี่เกม! ไม่มีประเด็นอื่นเจือปนแม้แต่นิดเดียว และที่เห็นเคาะขวากันอย่างหนุบหนับตลอดทั้งวันนั้น ก็มันจำเป็นจริงๆ นะตัวเอง!
-
คอลัมน์
ย่อยรับ..ไม่ใช่..ย่อยยับ
*โปรยหัวแบบนี้! บ่องตงว่า ถูกใจแฟนคลับของ “โมนิก้า” อย่างแน่นอน เพราะสุดท้ายก็ไม่มีใครรักตลาดหุ้นไทยเท่ากับรายย่อยอีกแล้ว พร้อมกับทำให้รู้ว่า กองทุนตัวแสบนิยมเล่นเกมลากๆ ทุบๆ ส่วนปอบผีฟ้าก็ไหลไปเรื่อยเปื่อย เชื่ออะไรไม่ค่อยได้ ส่วนฝรั่งตาน้ำข้าวก็ขายหุ้นตามสเต็ปเดิมที่วางไว้ทุกประการ มันเป็นวังวนเดิมๆ เหมือนที่เคยทิ้งท้ายไว้เมื่อสุดสัปดาห์ก่อนพะยะค่ะ
-
คอลัมน์
เลิกกลัว?
*ทุกครั้งที่ตลาดหุ้นไทยต้องเผชิญกับข่าวได้เสียทีไร มักเห็นดัชนีแกว่งตัวลงก่อนเป็นประจำ ต่อจากนั้นถึงจะเด้งขึ้นเมื่อข่าวดังกล่าวมีแนวโน้มเป็นเหมือนกับที่คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้สถานการณ์ของการลงทุนยากต่อการคาดเดา เพราะไม่มีใครรู้ว่า เรื่องจริงจะเป็นเช่นไร? เดี๊ยนถึงแปลกใจที่เห็นดัชนีทะยานขึ้นมาปิดที่ 1,436.40 จุด บวกไป 11.72 จุด ด้วยมูลค่า 4.57 หมื่นล้านบาทไงล่ะค่ะ
-
คอลัมน์
วันชี้ชะตา!
หากติดตามสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยอย่างกระชั้นชิดจะรู้ว่า ลักษณะการเล่นของพวกนักลงทุนสถาบันจะเป็นแบบ “เข้าทำ รีบชิ่ง” ออกทันที พร้อมกับมีการอารัมภบทไปเรื่อยเปื่อย ขณะที่แมงเม่าพันธุ์อึดกลับใช้ยุทธวิธี “ลงซื้อ ขึ้นขาย” กันอย่างแพร่หลายนั้น “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องของสูตรใครสูตรมัน ไม่มีอะไรตายตัวเหมือนในตำรา เพราะสิ่งที่ทุกคนต้องยึดถือเป็นสรณะคือ “กำไร” นะจะบอกให้
-
คอลัมน์
โล่งใจ (ชั่วคราว)
สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในช่วงที่เล่นกับกระแสข่าวอังกฤษอาจถอนตัวจากสหภาพยุโรป มันเป็นอะไรที่เม้าท์ค่อนข้างยากเหลือเกิน เพราะคอนเซ็ปต์การลงทุนเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ส่งผลให้รูปแบบของการลงทุนในแต่ละวันมีหุ้นมากหน้าหลายตาผลัดกันขึ้นมาเป็นผู้นำ ซึ่งเป็นแรงหนุนที่ทำให้ดัชนีเคลื่อนพลขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,350 จุดอีกรอบไงล่ะค่ะ
-
คอลัมน์
เริ่มแกว่ง
ดูเหมือนว่า บรรยากาศการลงทุนวานนี้ทำท่าจะไปได้สวย พอผ่านไปสักระยะหนึ่ง ราคาหุ้นกลับอ่อนตัวลงอย่างรวดเร็ว จนบางครั้งลงไปกองอยู่ในแดนลบ แต่หลังจากนั้นก็เด้งกลับขึ้นมาปิดบวก ซึ่งเป็นการสลับไปมาตลอดทั้งวัน ก่อนจะลงเอยด้วยการปิดที่ระดับ 1,421.99 จุด บวกไป 0.67 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.20 หมื่นล้านบาท มันหมายความว่า คนบางกลุ่มกำลังปักหลักเก็บของนะจ๊ะ
-
คอลัมน์
“สายย่อ” เตรียมทำงาน
บอกได้เลยว่า โลกของการลงทุน ไม่มีอะไรแน่นอนตายตัว ของที่เคยคิดว่า สงบราบเรียบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จริงๆ อาจมีคลื่นใต้น้ำก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ “โมนิก้า” ถึงมีแนวความคิดที่ตรงกันข้ามกับพวกกองทุน และฝรั่งตาน้ำข้าว ซึ่งเป็นผลมาจากตลาดหุ้นไทยไม่ได้เลิศเลอเพอร์เฟ็กต์ขนาดนั้น แถมยังมีภูมิคุ้มกันที่ค่อนข้างเปราะบางเสียเหลือเกิน พอมีอะไรจากภายนอกเข้ามากระทบนิดหนึ่ง เป๋ไม่เป็นขบวนเลยแหละ
-
คอลัมน์
วิตกจริต!
วันนี้ไม่มีคำบรรยายไหนเข้ากับตลาดหุ้นไทยได้ดีเท่ากับคำว่า “ยับเยิน” เพราะแสดงให้เห็นถึงอาการของดัชนีได้ดีสุด และยังสะท้อนถึงสภาพพอร์ตลงทุนเสียหายขนาดไหน “โมนิก้า” จึงขอยืนสงบนิ่งเป็นการชั่วคราว พร้อมกับขอขึ้นข้อความว่า RIP เพื่อรำลึกอดีตอันแสนหวานได้จากไปแล้ว และต่อไปนี้จะมีแต่เรื่องราวชวนขนหัวลุกเกิดขึ้นอีกครั้งไม่เว้นในแต่ละวันเจ้าค่ะ
-
คอลัมน์
หุ้นนอกกระแส
ช่วงที่ผ่านมา “โมนิก้า” พูดถึงหุ้นขนาดใหญ่ที่เป็นกระแสเยอะแยะไปหมด วันนี้เลยถือโอกาสเม้าท์ถึงหุ้นนอกกระแส เพื่อหลบเลี่ยงผลกระทบจากการเหวี่ยงตัวไปมาของดัชนี เพราะของมันเห็นกันเต็มตาว่า ดัชนียังขยับเขยื้อนไปไหนได้ไม่ไกล แถมนักลงทุนสถาบันที่เคยซื้อหุ้นอยู่ดีๆ ก็หันมาเทขายหุ้นแบบไม่มีเยื่อใยอีกครั้ง การทะยานขึ้นของดัชนีในเที่ยวนี้เลยไม่ง่ายอย่างที่คิดนะจะบอกให้
-
คอลัมน์
รีบาวด์..ตามระเบียบ
หลังจากดัชนีรูดลง 3 วันติดต่อกัน จนกลายเป็นอีกา 3 ตัว (ฝรั่งถือเป็นลางร้าย) แต่พอถึงวันที่ 4 ดัชนีสามารถเด้งกลับขึ้นมาปิดที่ 1,428.10 จุด บวกไป 6.24 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.50 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นจุดที่ทำให้สถานการณ์ดูผ่อนคลายลงไปในทันที…