เจาะกระดานหุ้น
-
คอลัมน์
พลังงานดันดัชนี
นี่เป็นอีกหนึ่งครั้งที่บรรดาเกจิอาจารย์ดังพร้อมใจกันมองเป้าดัชนีในระยะสั้นที่ระดับ 1,460 จุด ซึ่งเป็นการตอกย้ำว่า เมื่อสถานการณ์ทุกอย่างสุกงอมอย่างเต็มที่ ก็ทำให้เรื่องร้ายกลายเป็นดีได้ในพริบตา “โมนิก้า” ถึงพยายามบอกให้คนเล่นหุ้นอย่าไปคิดอะไรมาก เพราะวันนี้ยังเป็นเกมของการ “คิดเร็ว ทำเร็ว” ตัวแปรเรื่องผลประกอบการมีผลบ้างนิดหน่อยเท่านั้นเจ้าค่ะ
-
คอลัมน์
จบแบบเดิม!
จริงๆ “โมนิก้า” ไม่อยากจั่วหัวออกมาในทำนองนี้ แต่เผอิญเหตุการณ์เดิมๆ เวียนมาบรรจบอีกรอบ จึงไม่มีทางเลี่ยงไปพูดอย่างอื่น ผนวกกับประเด็นดังกล่าวก็เชื่อมโยงกับสิ่งที่อีเมี้ยนปากมากอย่างอีฉันได้เกริ่นนำไว้เมื่อวันก่อน จึงอยากกระตุกต่อมความคิดของนักลงทุนอีกสักรอบ หลังจากนั่งบวกลบคูณหารอย่างละเอียดแล้วพบว่า ไม่มีอะไรเสียหายน่ะสิ
-
คอลัมน์
1,420 อยู่แค่เอื้อม?
*สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทย “ในยามรัก น้ำต้มผัก ก็ว่าหวาน” อะไรก็หอมสดชื่นไปหมดเสียทุกอย่าง ขนาดวาเป๊กกลิ่นราเวนเดอร์ยังต้องชิดซ้าย “โมนิก้า” ถึงรู้สึกมึนตึ้บเมื่อเห็นดัชนีทะยานขึ้นมาปิดที่ 1,416.00 จุด บวกไป 17.23 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.73 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นการทะยานขึ้นมาทดสอบแนวต้าน 1,420 จุดเป็นครั้งที่ 2…
-
คอลัมน์
ตีหัวเข้าบ้าน!
*วานนี้เป็นอีกครั้งที่ “โมนิก้า” ตกอยู่ในภาวะอึ้งกิมกี่ตั้งแต่เช้าจรดเย็น หลังเห็นตลาดหุ้นอันเป็นที่รัก กระชากขึ้นแบบสุดลิ่มทิ่มประตู ก่อนจะลงเอ่ยด้วยการปิดที่ 1,398.77 จุด บวกไป 13.35 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.78 หมื่นล้านบาท ทั้งที่ชาวบ้านชาวช่องปิดแดงเถือกกันอย่างถ้วนหน้า มันเป็นอารมณ์ที่ทำให้รู้ว่าอย่าไปยึดติดกับอะไรมากมาย เพราะมันเป็นเกมตีหัวเข้าบ้านที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?
-
คอลัมน์
เล่นทีเผลอ?
*สถานการณ์ของตลาดหุ้นในวันสุดท้ายก่อนหยุดสงกรานต์เป็นอะไรที่เซอร์ไพรส์มากๆ เพราะมีแรงซื้อเข้ามาแบบจู่โจมไม่ทันตั้งตัว ส่งผลให้ดัชนีกระชากขึ้นมาปิดที่ 1,385.42 จุด บวกไป 15.58 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.10 หมื่นล้านบาท มันเป็นเหตุการณ์ที่ฟ้องว่า พวกนี่ชอบเล่นทีเผลอเป็นประจำ จึงเลือกดันหุ้นในวันที่ชาวบ้านชาวช่องไปเที่ยวกันหมดแล้ว ภาพการลงทุนถึงยังไม่มีอะไรชัดเจนไงล่ะค่ะ
-
คอลัมน์
รอกลับมาเล่นใหม่
*ในเมื่อวอลุ่มเทรดไม่มา กระแสหลักยังไม่เกิด ข่าวทีเด็ดไม่เห็นมี ทุกอย่างมีแต่คำว่า “ไม่” บวกกับคนห่วงเล่นน้ำสงกรานต์ บรรยากาศการลงทุนถึงวังเวงวิเวกโหวเหว หุ้นบลูชิพถึงจมปลักอยู่ที่เดิม บวกกับท่าทีของนักลงทุนสถาบันเล่นสั้นกันเป็นส่วนใหญ่ ส่งผลให้การขึ้นเที่ยวนี้ออกจะเป๋ๆ ไปสักหน่อย แถมทิศทางที่ชัดเจนยังไม่เกิดขึ้นอย่างบูรณาการ มันเหนื่อยใจนะเนี่ย!
-
คอลัมน์
ซัดกันมั่ว!
*ลำพัง “โมนิก้า” นั่งเฝ้าหน้ากระดานหุ้นก็แทบจดข้อมูลสำคัญแทบไม่ทันอยู่แล้ว จู่ๆ ดันมีกูรูรายหนึ่งเม้าท์ถึงท่าทีของ ก.ล.ต. ที่แสดงอำนาจบาตรใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ เดี๊ยนเลยมีอาการของขึ้นในทันที เพราะสิ่งที่พวกเขาคิดมันไม่ช่วยให้แมงเม่าได้รับประโยชน์อะไรเลย แถมยังเป็นการปิดกั้นการเข้าถึงข้อมูลจากแหล่งต่างๆ เดี๊ยนขอถามหน่อยเถอะ..มันดีตรงไหนเจ้าขา!
-
คอลัมน์
สงครามการเงิน?
*ประเด็นที่ทำให้ “โมนิก้า” ต้องจั่วหัวแรงๆ ล้วนมาจากท่าทีของกลุ่มคนที่อยู่ในตลาดหุ้น และนอกตลาดหุ้น ชอบอ้างตัวเป็นคนดีศรีสยามเป็นประจำ พอถึงเวลาจริงๆ กลับกลายเป็นเรื่องโอละพ่อ!เดี๊ยนถึงเกิดความรู้สึกรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะท้ายที่สุดก็เป็นเพียงการสร้างความน่าเชื่อถือแบบกำมะลอ ซึ่งไม่มีคุณค่าอะไรสำหรับการลงทุนในยุคที่ทุกอย่างยังอุ้มกระเตงกันแบบนี้เจ้าค่ะ
-
คอลัมน์
ตีโจทย์ให้แตก!
*ใจหาย..ใจคว่ำ..ไปตามๆ กัน เมื่อแรงเทขายไหลออกมาตั้งแต่เปิดตลาด จนดัชนีรูดลงไปถึงระดับ 1,396.42 จุด ก่อนจะเด้งกลับขึ้นมาปิดที่ 1,400.27 จุด ลบไป 0.45 บาท ด้วยมูลค่า 3.60 หมื่นล้านบาท มันคือภาพสะท้อนที่ทำให้แฟนคลับรู้ว่า มีคนพยายามดันหุ้นเพื่อรักษาฐานแนวรับ 1,400 จุด ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ไม่ปกติในยามที่ตลาดหุ้นขาดปัจจัยบวกระยะยาวเข้ามาหนุนเจ้าค่ะ
-
คอลัมน์
ดูเป็นรายตัว
*สิ่งที่ “โมนิก้า” เฝ้าดูตลาดหุ้นมาเป็นสัปดาห์อยู่ที่เรื่องพฤติกรรมของนักลงทุนกลุ่มต่างๆ ที่สลับกันซื้อสลับกันขาย โดยดัชนียังพยายามเดินหน้าขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ให้เห็นเป็นระยะ ล้วนเป็นตัวแปรที่ทำให้เดี๊ยนเชื่อว่า ทุกอย่างกำลังวิ่งเข้าไปหาจุดสมดุล และในระหว่างที่รอให้สถานการณ์ดังกล่าวสุกงอมอย่างเต็มที่ คงต้องเลือกเฟ้นหุ้นรายตัวมากเป็นพิเศษนะจะบอกให้