เจาะกระดานหุ้น
-
คอลัมน์
เกือบไม่รอด
อาการกวัดแกว่งไปมาของดัชนีที่เกิดขึ้นในช่วง 3-4 วันที่ผ่านมา บวกกับแรงซื้อที่เข้ามาอย่างกระท่อนกระแท่น รวมทั้งไม่สามารถพลิกแนวต้านเป็นแนวรับ หรือแม้กระทั่งนักลงทุนสถาบันหันมาเป็นผู้ขาย ล้วนเป็นตัวแปรที่ส่งผลให้นักลงทุนกลุ่มต่างๆ เน้นเทขายหุ้นทำกำไรเมื่อดัชนีถีบตัวขึ้นไปใกล้ 1,400 จุด เดี๊นถึงมองการขยับตัวในวันนี้ไม่ได้แตกต่างจากก่อนหน้านี้สักเท่าไหร่พะยะค่ะ
-
คอลัมน์
เอาอยู่?
*เมื่อวานนี้ “โมนิก้า” มองสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยคงเละเป็นโจ๊กแน่ๆ เพราะทันทีที่เป็นการซื้อขายอย่างเป็นทางการ ก็มีแรงเทขายกระหน่ำออกมาอย่างหนักหน่วง จนดัชนีรูดลงไปกองอยู่ที่ 1,370.08 จุด แต่หลังจากนั้นกลับมีแรงช้อนซื้อเข้ามาไล่ราคาหุ้นอย่างต่อเนื่อง จนดัชนีไต่ระดับขึ้นอย่างช้าๆ ก่อนจะลงเอยที่ระดับ 1,377.80 จุด ลบไป 5.13 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.57 หมื่นล้านบาท มันเป็นสถานการณ์ที่บอกให้รู้ว่า…
-
คอลัมน์
ลงก่อนขึ้น
หากใครได้ติดตามความคิดเห็นของ “โมนิก้า” ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาจะเห็นว่า เดี๊ยนอยากให้มีการทดสอบแรงเทขายอย่างหนักหน่วง เพื่อให้แน่ใจว่า แรงซื้อที่เข้ามาในรอบนี้เป็นของจริง 100% หากดัชนียืนระยะได้อย่างมั่นคงแข็งแกร่ง น่าจะอนุมานได้ทันทีว่า “ของแท้” หากออกอาการป้อแป้อย่างรวดเร็ว ก็อนุมานได้ทันทีว่า “ของเทียม” เดี๊ยนถึงรู้สึกเฉยๆ เมื่อดัชนีแกว่งตัวสะเปะสะปะเจ้าค่ะ
-
คอลัมน์
ชอบลองของ?
*ก่อนอื่น “โมนิก้า” ขอแสดงความยินดีกับนักเล่นที่ใช้จังหวะดัชนีเทคตัวลอยสูงขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 1,407.21 จุด เทขายหุ้นทำกำไรกันอย่างเมามัน ก่อนที่ดัชนีจะอ่อนตัวลงมายืนอยู่ที่ 1,394.27 จุด บวกไป 0.86 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.78 หมื่นล้านบาท มันเป็นภาพที่มองครั้งใด เวลาใด ก็สุดแสนจะแฮปปี้ เพราะสะท้อนให้เห็นว่า แมงเม่าสามารถปรับสภาพให้เข้ากับมันนี่เกมเที่ยวนี้แล้วนะคะ
-
คอลัมน์
ขึ้นวัน..ลงวัน
*หากดูโมเมนตัมของตลาดหุ้นไทยตลอดทั้งสัปดาห์จะเห็นว่า การเคลื่อนตัวยังเป็นลักษณะ “ขึ้นวัน ลงวัน” โดยนักเล่นกลุ่มสถาบัน “ผลัดกันซื้อ ผลัดกันขาย” ส่งผลให้ดัชนียังคงวนเวียนไปมาในกรอบ 1,370-1,400 จุด โดยหุ้นกลุ่มหลักยังคงแกว่งตัวไปมาในกรอบเดิมๆ ซึ่งเป็นการย้ำหัวหมุดตัวเดิมว่า อย่าหวังอะไรมากกับการลงทุนในเที่ยวนี้ เพราะยังไม่มีปัจจัยหนุนที่ทำให้หุ้นยืนระยะได้นะซี
-
คอลัมน์
ปั่นป่วน
หากย้อนดูเรื่องราวที่สังคมกำลังจับจ้องกันอย่างใกล้ชิด คงหนีไม่พ้นเรื่องการจ่ายเงินค่าใบประมูล 4G และตัวต้นเรื่องที่ทำให้เกิดข่าวสารมากมายหลายเรื่องในเที่ยวนี้ ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเลย..ยย เพราะอีตาคนนั้นก็คือ “พิชญ์” หัวเรือใหญ่แห่งค่ายดอกมะลิ JAS ซึ่งสร้างวีรกรรมเรื่องต่างๆ ไว้มากมายหลายเรื่อง จนผู้คนในตลาดหุ้นเม้าท์กันไปต่างๆ นาๆ ซึ่งอาจจริงบ้าง ไม่จริงบ้างนะคะ
-
คอลัมน์
เกมวิ่งผลัด!
สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้ “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นเร้าใจมากๆ เพราะมูฟเมนต์ของการลงทุนเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา จนถึงขั้นที่ว่า เซียนต้องหักปากทิ้งไปแล้วหลายด้ามด้วยกัน แถมแรงซื้อที่เข้ามาในรอบนี้เป็นการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้ามา ยิ่งทำให้ดัชนีมีความผันผวนมากขึ้นเป็นทวีคูณ ซึ่งเปิดช่องให้นักเก็งกำไรเข้ามาตะลุยกันอย่างเต็มที่เจ้าค่ะ
-
คอลัมน์
กองทุนทุบซะน่วม!
*หากวิเคราะห์สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยอย่างเป็นระบบแบบแผน “โมนิก้า” บอกได้ทันทีว่า กระบวนการลงทุนในเที่ยวนี้ไม่มีหลักสูตรที่ตายตัว บวกกับแรงกระตุ้นที่ทำให้กลับเข้ามาไล่ซื้อหุ้นเป็นแค่ปัจจัยบวกสั้นๆ วันนี้ถึงต้องทำการ “วิเคราะห์ แยกแยะ” เรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ดีเป็นพิเศษ เพื่อตัวเองจะได้ไม่หลงเข้าไปเล่นเกมของคนอื่น ซึ่งเป็นเรื่องที่นักลงทุนต้องตระหนักให้มากนะคะ
-
คอลัมน์
หัวทองมา..หุ้นกระฉูด
การทะยานขึ้นอย่างร้อนแรงของดัชนี ก่อนจะจบลงด้วยการปิดที่ 1,395.75 จุด บวกไป 16.22 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.21 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นจังหวะที่สุดแสนจะโอเว่อร์รีแอ็กต์ แต่เมื่อดูจากสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาจะเห็นว่า การเข้ามาของฝรั่งหัวทองในคราวนี้ ทำให้ดัชนีทะยานขึ้นอย่างไม่มีลิมิตชีวิตเกินร้อย พร้อมกับทำให้บรรยากาศการลงทุนคึกคักขึ้นทันตานะจะบอกให้
-
คอลัมน์
สามรุมหนึ่ง
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ กับบรรยากาศตลาดหุ้นไทยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทำให้ “โมนิก้า” งงเหมือนไก่ตาแตก ช่วงแรกดัชนีปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงสวนทางตลาดหุ้นภูมิภาคที่ส่วนใหญ่ปรับตัวลง แต่เมื่อตลาดปิดทำการทำให้โมนิก้ารู้ถึงสาเหตุอันแท้จริงว่าเหตุที่ดัชนีปรับขึ้นเป็นผลมาจาก นักลงทุนสถาบันในประเทศ, โบรกเกอร์ และนักลงทุนต่างชาติเข้ามาไล่ซื้อหุ้นที่ประกาศผลประกอบการออกมาดีแล้วมีการจ่ายปันผลด้วย