เจาะกระดาน

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : อ่วมอรทัย!

    ประเด็นเม้าท์แตกที่ทำให้บรรดาขาเผือกเกิดอาการชักเกร็ง พร้อมกับมีลักษณะตาค้างมากสุดในเที่ยวนี้ คงเป็นเรื่องเกี่ยวกับอนาคตของหุ้นไฟแนนซ์จะเป็นเช่นไร ? หลังเกิดการพูดกันปากต่อปากไปถึงขั้นที่ว่า เมื่อแบงก์ออมสินที่มีฐานเงินทุนแน่นปึ้กกระโจนเข้าสู่การแข่งขันในตลาดลีสซิ่ง ย่อมสร้างความสั่นสะเทือนให้กับผู้เล่นรายเก่าที่อยู่ในตลาดอย่างมีนัยสำคัญเจ้าค่ะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : บลูชิพสตรอง

    ดูเหมือนช่วงนี้จะเกิดรายการ “หักปากกาเซียน” บ่อยมาก ชนิดที่หลายคนไม่รู้จะเอาหน้าไปมุดที่ไหนนั้น “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องปกติสำหรับตลาดหุ้นไทย และทุกวันนี้ก็ยังไม่รู้สาเหตุที่ทำให้หุ้นไทยยืนหยัดในระดับสูงได้อย่างแข็งแกร่ง จึงอยากให้แฟนคลับทำใจยอมรับสภาพที่เกิดขึ้นแต่โดยดีพร้อมกับให้ทุกคนพึงระลึกไว้เสมอว่า ช่วงนี้เป็นเวทีของกองทุนที่ต้องการโชว์เพาเวอร์ให้ทุกคนเห็นพะยะค่ะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : ทรุดรอบใหม่?

    หากประเมินด้วยสายตานักเล่นจะรู้ได้ทันทีว่า ตลาดหุ้นถึงเวลาสร้างฐานเพื่อดันตัวเองขึ้นไปพลิกแนวต้านสำคัญบริเวณ 1,350 จุด ให้กลายเป็นแนวรับที่แข็งแกร่งอีกครั้ง ซึ่งเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำหรับการการเคาะขวาในไม้ถัดไป “โมนิก้า” ถึงต้องลุ้นให้ดัชนียืนหยัดในแดนบวกเล็ก ๆ ต่อไปอีกระยะหนึ่ง เพื่อช่วยให้ดัชนีเทกตัวผ่านจุดสำคัญไปอย่างง่ายดายไงล่ะคะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : ดันสั้น..ไม่ดันยาว

    ในระยะเวลาสองเดือนที่ผ่านมา “โมนิก้า” ให้ความสำคัญกับการเคลื่อนตัวของดัชนีอิงกับสัญญาณเทคนิคมากเป็นพิเศษ เพราะเป็นข้อมูลเดียวที่ทำให้เห็นวงรอบของตลาดหุ้นได้ชัดเจนสุด จึงไม่ค่อยสนใจปัจจัยภายนอกที่พยายามเล่นข่าว “ซ้ำไป ซ้ำมา” เดี๊ยนถึงมองเรื่องต่าง ๆ ที่เข้ามาในแต่ละวันเป็นเพียงหัวเชื้อที่ช่วยเติมความคึกคักให้ตลาดหุ้นแบบขัดตาทัพเท่านั้นพะยะค่ะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : กดไม่ลง

    เดิมที “โมนิก้า” ตั้งใจพูดถึงแนวต้านซอยถี่ยิบในระหว่างทางที่ดัชนีไต่เพดานบินสูงขึ้น แต่คิดไปคิดมาพบว่าเสียเวลาในการมองเหตุการณ์วันต่อวัน เลยตัดสินใจพูดถึงแนวต้านใหญ่ที่ขวางตรงหน้า เพื่อให้นักเล่นมีเวลาเตรียมตัวทำอะไรบางอย่าง ขณะเดียวกันยังเป็นการบอกให้นักเล่นเข้าใจเกมหุ้นเที่ยวนี้เล่นกันดุเดือดเลือดพล่านขนาดไหนอีกด้วยนะจะบอกให้

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : ค้อนหัวกลับ

    วันนี้ “โมนิก้า” ขอมาในแนวสัญญาณเทคนิคแบบหัวเอียงซ้ายสุดขั้ว เพราะต้องการเบรกอารมณ์หลังจากไปจุ้นจ้านเรื่องชาวบ้านมากเกินไป ผนวกกับช่วงนี้ต้องการให้แต่ละคนโชว์ของกันอย่างเต็มที่ จึงไม่อยากไปดับไฟของคนที่กำลังถูกดันขึ้นมาเป็นหุ่นเชิด..อุ๊ย..ความหวัง เพราะโลกของธุรกิจในทุกวันนี้เขาวัดกันที่ “กึ๋น” และความ “เก๋า” ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องติดตามดูกันต่อไปเรื่อย ๆ นะจะบอกให้

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : เกมชักเย่อ!

    บรรยากาศการลงทุนในช่วงสัปดาห์ก่อนมีหลากเรื่อง หลายรสชาติ ผสมปนเปกับดราม่าเล็ก ๆ น้อย ๆ ตามประสานักลงทุนที่ถนัดเล่นแบบ “เข้าทำเร็ว” เดี๊ยนถึงแอบกระซิบแฟนคลับตั้งแต่วันก่อนว่า ต้องทันเกม! พวกอ่อนต่อโลกอาจไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น แต่คนที่เข้าใจเรื่องเกมการเงิน ย่อมเข้าใจถึงรูปแบบของการลงทุนในเที่ยวนี้อย่างถ่องแท้ เพราะหุ้นเริ่มออกอาการอีกครั้ง คราวนี้คงต้องขอเวลาพักเอาแรงนิดหน่อยเจ้าค่ะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : “วีไอพี” ทำ “ชิบ..”

    การให้อภิสิทธิ์กับคนต่างชาติกลายเป็นเผือกร้อนที่ทำให้คนในประเทศหัวร้อนขึ้นมาในทันที เพราะสิ่งที่หน่วยงานดังกล่าวพร่ำบอกกับชาวบ้านตาดำ ๆ อย่าการ์ดตก มันเป็นเพียงการสักแต่จะพูดไปวัน ๆ โดยหน่วยงานที่มีอำนาจไม่เคร่งครัดกับแนวทางดังกล่าว ผลลัพธ์ที่ออกมาเลยเละตุ้มเป๊ะอีกรอบ จนต้องมานั่งล้อมวงนับหนึ่งใหม่แบบนี้..มันน่าจับมาเขกกะโหลกเรียงตัวเสียจริง ๆ เจ้าค่ะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : ลง 4 ขึ้น 1

    *ข้อมูลที่ทำให้ “โมนิก้า” อยากเม้าท์ถึงมากสุดในตอนนี้คือ ตลอดระยะเวลา 5 สัปดาห์ที่ผ่านมา “โมนิก้า” เห็นสัญญาณแท่งเทียนสีเขียวปรากฏบนหน้ากระดานเพียงแค่ 7 วัน ซึ่งเป็นภาพที่ตอกย้ำให้รู้ว่าสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยไม่ค่อยสู้ดีสักเท่าไหร่! และภาพดังกล่าวก็ทำให้รู้เพิ่มขึ้นไปอีกนิดหนึ่งว่า เฉลี่ยแต่ละสัปดาห์ปรากฏแท่งเทียนสีแดงมากถึง 4 วัน ส่งผลให้บรรยากาศการลงทุนตอนนี้ดูไม่ดีเอาเสียเลยเจ้าค่ะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : ถอยตั้งหลัก (ชั่วคราว)

    หากประเมินแรงขายที่ถล่มใส่ตลาดหุ้นไทยระลอกใหม่ พร้อมกับเกิดความวุ่นวายเพื่อแย่งชิงอำนาจทางการเมืองที่ปะทุขึ้นมาเป็นระยะ “โมนิก้า” ก็เห็นสมควรที่ดัชนีไทยควรจะถอยลงไปตั้งหลัก เพื่อรอดูปัจจัยต่าง ๆ ให้นิ่งมากกว่านี้ และไม่มีความจำเป็นต้องดันทุรังสวนกระแส ในเมื่อหนทางทำกำไรเริ่มตีบตันมากขึ้นเรื่อย ๆ เดี๊ยนถึงอยากรอดูทุกอย่างให้ชัดเจนกว่านี้อีกนิดหนึ่งนะคะ

Back to top button