โมนิก้าและทีมงาน

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : เปิดบวกปิดลบ

    ตอนแรกดูเหมือนดัชนีจะเริ่มตั้งลำอ่อน ๆ แต่ทำไปทำมากลับมีแรงเทขายออกมาระลอกใหญ่ ทั้งจากฝรั่งตาน้ำข้าว และกองทุนตัวแสบเจ้าเดิม เหลือเพียงแรงซื้อจากรายย่อยที่เข้ามาเก็บของถูก จึงได้เห็นดัชนีขึ้นไปบวกได้เพียงประเดี๋ยวประด๋าว พร้อมกับการแกว่งไปมาอยู่ในกรอบแคบ ๆ ถือว่าสร้างความอึดอัดใจให้กับผู้เล่นที่ตามเกมไม่ทันอย่างใหญ่หลวง

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : ลงจนหวาดเสียว

    จริง ๆ “โมนิก้า” ไม่อยากดับฝันของนักลงทุนที่กำลังละเมอเพ้อพกว่า แนวรับ 1,200 จุด แข็งหนักหนา และสถานการณ์ทุกอย่างกำลังดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ในเมื่อโลกความจริงมันแสนจะโหดร้าย เราก็ควรเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างทะลุปรุโปร่ง เพื่อทำให้ตัวเองเป็นผู้ชนะในการลงทุน เพราะรูปแบบของการเล่นในเที่ยวนี้ จะไม่มีรูปแบบของการวิ่งแรลลี่ให้เห็นกันอีกนานเจ้าค่ะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : ปลอดภัยไว้ก่อน

    วานนี้ดัชนีพยายามพยุงตัวอยู่ในแดนบวกตั้งแต่เปิดการซื้อขาย สุดท้ายทำได้แค่เพียงปิดที่ระดับ 1,207.94 จุด ลบไป 1.01 จุด ด้วยมูลค่า 5.51 หมื่นล้านบาท ทำให้เห็นว่าอย่างเพิ่งหลงมัวเมา อยู่กับแสงสีเขียวอ่อน ๆ เป็นอันขาด และควรกำหนดจังหวะการขายให้ชัดเจน โดยเฉพาะในช่วงที่มีการไล่ราคาแบบหวือหวา เดี๊ยนถือเป็นจังหวะที่นักเล่นต้องรู้จักทำตัวพลิ้วไหวตามสถานการณ์ เพื่อเพิ่มช่องทางในการทำกำไรเจ้าค่ะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : บลูชิพอ่วม!

    แรงกระเพื่อมจากไวรัสโควิด-19 กลายเป็นแรงกดดันที่ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกตกอยู่ในสถานการณ์ล่อแหลมอีกครั้ง หลังตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่ในประเทศ สหรัฐฯ กับ ยุโรป พุ่งไม่หยุด จนเกิดความวิตกกังวลกันว่า เศรษฐกิจโลกมีสิทธิ์ที่จะพังพาบมากกว่าเดิม จึงพากันทิ้งหุ้นแบบหูดับตับไหม้ ส่งผลให้ภาพรวมของการลงทุนทั่วโลกไม่มีอะไรบรรเจิดสักอย่างพะยะค่ะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : หาแวลูไม่เจอ!

    ข้อมูลที่ “โมนิก้า” อยากเม้าท์เพื่อให้ทุกคนเห็นภาพข้างหน้าไปพร้อมกันคือ วันนี้แวลูของการซื้อหุ้นแต่ละตัวอยู่ตรงไหน ? เพราะสิ่งที่เห็น ณ เวลานี้ล้วนเป็นลักษณะของหุ้นที่ต่ำกว่าแวลูกันทั้งนั้น แต่แรงขายกลับไม่มีทีท่าจะซาลงแต่อย่างใด ? ส่งผลให้บรรยากาศของการลงทุนไม่บรรเจิดอย่างที่หลายคนคาดหวัง จนนำไปสู่คำบอกเล่าปากต่อปากให้ถือเงินสดเยอะกว่าหุ้นแล้วนะคะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : ‘ทรง’ กับ ‘ทรุด’

    หากมองทิศทางของตลาดหุ้นไทยอ้างอิงกับตลาดหุ้นต่างประเทศเป็นหลัก “โมนิก้า” บอกได้ในทันทีว่า มันไม่มีตัวแปรไหนที่ทำให้เชื่อว่า ตลาดหุ้นทั่วโลกจะฟื้นตัวอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่นักการเมืองลากยาวมาเป็นเดือน ก็เป็นประเด็นที่ทำให้ทุกคนรู้เช่นเห็นชาติว่า ทำเพื่อประโยชน์ของตัวเอง (คนขาว) กันทั้งนั้นพะยะค่ะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : ขึ้นเพื่อลง?

    ทุกครั้งที่ตลาดหุ้นไทยเด้งขึ้นแรงตามต่างประเทศทีไร “โมนิก้า” มักมีอาการหนาว ๆ ร้อน ๆ เป็นประจำ เพราะรู้ได้ทันทีว่า นี่เป็นการขึ้นตามกระแส ไม่ได้อยู่บนพื้นฐานความเชื่อมั่นแม้แต่นิดเดียว ซึ่งทำให้การขึ้นในวันถัดไปเป็นเรื่องยากในทันที เพราะผู้เล่นจ้องขายทำกำไรเพื่อลดความเสี่ยงตลอดเวลา และยังทำให้ภาพใหญ่ของตลาดหุ้นไทยอยู่ในลักษณะ “ขึ้นเพื่อลง” ไงล่ะค่ะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : ชินม็อบ ชินหุ้น

    สิ่งที่อยากบอกกับบรรดาแฟนคลับขาประจำทั้งหลายว่า เดี๊ยนเป็นคนไม่โลกสวยเหมือนกับคนอื่นทั่วไป จึงมองเรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นอะไรที่เหมาะต่อการเรียนรู้ โดยเฉพาะในมุมของโลกที่กำลังเปลี่ยนไป และประเทศไทยกำลังอยู่ในลักษณะไม่เหมือนเดิม ล้วนเป็นเรื่องที่ “โมนิก้า” อยากให้ทุกคนได้มองในมุมต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์กับตัวเองให้มากที่สุด เพราะหน้าที่ของนักลงทุนคือ ทำกำไรให้ได้ในทุกสถานการณ์นะจะบอกให้

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : ลุ้นรีบาวด์

    หลังจากตลาดหุ้นไทยตกหนักเป็นเวลา 4 วัน ก็น่าจะถึงเวลาของการดีดกลับอย่างเป็นทางการเสียที (น้องโมคิดว่าจะเป็นแบบนั้น) จึงมองสถานการณ์ต่าง ๆ ที่พลิกไปพลิกมาเป็นเรื่องที่นักลงทุนต้องอยู่ให้เป็น ซึ่งจะทำให้กระบวนทัพในการเล่นหุ้นคล่องตัวขึ้นกว่าเดิม และต้องไม่ลืมว่า จุดเด้งแรกบริเวณ 1,230 จุดโดนถล่มขายจนแตกยับไม่เป็นท่า จึงฝากความหวังไว้ที่จุดเด้งสองบริเวณแนวรับ 1,200 จุด น่าจะยังทำหน้าที่ได้ดีพะยะค่ะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : กล้าเคาะขวาไหม?

    หากมองสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยตามสถิติเก่าที่เคยมีการบันทึกไว้ “โมนิก้า” ย่อมมองตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในลู่ทางของการทยอยซื้อ เพราะเป็นช่วงการขายหุ้นเพื่อลดความเสี่ยงของฝรั่งกับกองทุน ส่งผลให้โมเมนตัมของหุ้นอยู่ในทิศทางแกว่งตัวลง ซึ่งเป็นเรื่องที่แฟนคลับเห็นกันมาแล้วหลายรอบด้วยกัน เพียงแต่เที่ยวนี้โดนเรื่องโควิด-19 ในต่างประเทศระบาดหนักรอบสอง และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยังไม่บรรลุข้อตกลงตามหลอกหลอน ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกเกิดอาการงึก ๆ งัก ๆ ไงล่ะจ๊ะ

Back to top button