โมนิก้าและทีมงาน

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : กองทุน (เจ้าเก่า)

    เมื่อถามไถ่เกี่ยวกับอาการปรับตัวขึ้นของดัชนีที่ขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,390.83 จุด บวกไป 12.22 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.68 หมื่นล้านบาท เดี๊ยนก็บอกได้คำเดียวว่าค่อนข้างรู้สึกไม่ปลอดภัยกับการปรับขึ้นรอบนี้ และไม่ได้คาดหวังการปรับขึ้นในวันต่อ ๆ ไป เพราะอากัปกิริยาที่แสดงออกมาในแต่ละวันยังไม่ทำให้รู้สึกไว้ใจ ทั้งในแง่ของพื้นฐานที่ยังไม่เห็นทิศทางชัดเจนอย่างเป็นรูปธรรม ผนวกกับปัจจัยลบในประเทศยังหนาหู!

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : พาณิชย์อ่อนเชิง ก.ล.ต.อ่อนหัด

    บอกตามตรงว่า “โมนิก้า” ไม่รู้สึกเป็นกังวลกับลักษณะ “วิ่งขึ้น วิ่งลง” ของดัชนีแม้แต่นิดเดียว เพราะเป็นเรื่องที่พอคาดเดาเหตุการณ์จะเดินไปถึงจุดไหนได้คร่าว ๆ จึงไม่เคยถือโทษโกรธเคืองเรื่องต่าง ๆ ที่เข้ามาในเวลานี้ ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยหลายอย่างอยู่เหนือการควบคุม และทุกภาคส่วนกำลังช่วยกันต่อสู้กับไวรัสมรณะอย่างเต็มที่ จึงขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่ช่วยกันคนละไม้คนละมือนะคะ

  • Uncategorized

    เจาะกระดาน : ลงแล้วขึ้น..รอบที่ 4

    *จริง ๆ “โมนิก้า” เป็นหญิงสาวยุคใหม่ที่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงในหลายมิติด้วยความเต็มใจ และพร้อมจะเดินไปข้างหน้าด้วยความมั่นใจเกินร้อย เพราะประสบการณ์ในชีวิตสอนให้รู้ว่า “ของใหม่” ย่อมดีกว่า “ของเก่า” (ยกเว้นน้ำพริกถ้วยเก่า ยังแซ่บถูกใจเสมอ ไม่ว่าจะนานแค่ไหน) เดี๊ยนถึงไม่ชอบอะไรที่สุดโต่งมากเกินไป เพราะสุดท้ายมันจะย้อนกลับมาทำลายตัวเองนะจะบอกให้

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : ฝืนดันหุ้น

    วานนี้เป็นอีกครั้งที่ตลาดหุ้นไทยเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน และพร้อมจะมีอะไรมาเซอร์ไพรส์ได้ตลอดเวลา “โมนิก้า” ถึงเหนื่อยใจสุด ๆ เมื่อเห็นดัชนีสวิงสวายเกินจะรับได้ เพราะอาการพุ่งพรวดขึ้นไปเกือบ 20 จุด ต่อจากนั้นรูดพรวดเดียวลงไปกว่า 20 จุด ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 1,335.72 จุด ลบไป 4.80 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7.43…

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : หมดลุ้น

    สิ่งที่นักเล่นควรทำความเข้าใจอีกครั้งก็คือ แรงเทขายที่ออกมาในล็อตนี้เต็มไปด้วยความหวาดกลัว จึงไม่มีใครคิดจะถือหุ้นลงทุนอีกต่อไป ซึ่งเป็นแรงกดดันที่ทำให้ดัชนีอ่อนตัวลงไปเรื่อย ๆ “โมนิก้า” ถึงไม่เคยถือโทษโกรธเคืองคนที่กระหน่ำซัมเมอร์เซลครั้งใหญ่ เพราะมันเป็นเคพีไอที่ใช้วัดคุณภาพของผู้จัดการกองทุน เดี๊ยนถึงได้แต่ทำใจยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นพะยะค่ะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : สงครามยังไม่จบ..อย่าเพิ่งนับศพ

    วันนี้ขอเรียนให้แฟนคลับรับรู้ทั่วไปอีกครั้งว่า ความวิตกกังวลต่อไวรัสมรณะที่แผ่ขยายวงกว้างจนเกินควบคุมที่เกิดขึ้นในคราวนี้ กลายเป็นตัวกัดกร่อนความมั่นใจการลงทุนทั่วโลก “โมนิก้า” ถึงไม่มีเวลาไปแสวงหาข้อมูลในเชิงบวกมาเล่าสู่กันฟังเพื่อเสริมสร้างกำลังใจ เพราะสิ่งที่ต้องรู้ให้ได้ก็คือ เรื่องน่ากลัวที่เกิดขึ้นจะจบเมื่อไหร่ ? เพราะตรงนั้นจะเป็นจุดเช็กความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมดได้ชัดเจนสุดพะยะค่ะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : โอเวอร์โซลด์ ไร้ความหมาย

    นี่เป็นอีกครั้งที่ทำให้ “โมนิก้า” รับรู้ถึงอาการ panic ของนักเล่นมีมากเกินจะบรรยายจริง ๆ และแสดงออกด้วยการสาดหุ้นทิ้งแบบไม่เห็นแก่หน้าอินทร์หน้าพรหมแบบนี้ เดี๊ยนมองไม่ออกจริง ๆ ว่าดัชนีจะหยุดลงตรงบริเวณไหนกันแน่! จึงไม่ฟันธงว่าดัชนีควรจะเด้งกลับตรงบริเวณไหน ? เพราะแรงขายที่ออกมาในเที่ยวนี้ มันเกิดจากอารมณ์ที่มีความกลัวเยอะมากนะจะบอกให้

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : ต่ำสุดตั้งแต่เกิดมา ?

    ก่อนอื่นต้องขอเรียนให้ทราบว่า “โมนิก้า” จั่วหัวแรง ๆ เพื่อทำให้นักเล่นได้มีเวลาหยุดคิดเรื่องต่าง ๆ ที่ถาโถมเข้ามาเป็นระลอก จนเกิดความสงสัยถึงบทสรุปของเรื่องจะลงเอยแบบไหน ? มันเป็นประเด็นที่นักเล่นต้องทำตัวให้กลมกลืนกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และไม่จำเป็นต้องทำตัวเป็นชาวสวนในช่วงที่สถานการณ์รอบด้านยังคลุมเครือ เพราะรังแต่จะสร้างปัญหาให้กับพอร์ตหุ้นของตัวเองทั้งนั้นเจ้าค่ะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : ถล่มขายบลูชิพ

    การร่วงลงอย่างหนักของดัชนีวานนี้ ถือเป็นภาพสะท้อนที่ทำให้นักเล่นได้รู้ว่า สถานการณ์เศรษฐกิจโลกย่ำแย่เกินจะรับได้! จึงพากันขายหุ้นทิ้งแบบไม่คิดชีวิต หลังมองไม่เห็นสัญญาณการฟื้นตัวจะเกิดขึ้นได้ในอนาคตอันใกล้ “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นเข้าใจบริบทของการลงทุนเที่ยวนี้เต็มไปด้วยความกลัว ซึ่งเป็นไฟต์บังคับที่ทำให้นักเล่นสถาบันต้องหันไปถือเงินสดเยอะขึ้นกว่าเดิมไงล่ะคะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : เลิกเพ้อเจ้อ (เสียที)

    ใจจริง “โมนิก้า” ไม่ได้ประสงค์ร้ายต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทย และไม่ได้มีจุดมุ่งหมายให้ตลาดหุ้นไทยต้องพังพาบไม่เป็นท่า แต่เผอิญเห็นกูรูในตลาดหุ้นยังส่งเสียงเชียร์ให้ลุยซื้อหุ้นต่อไปเรื่อย ๆ จึงรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่งที่เห็นเรื่องที่พูดขัดแย้งกับสิ่งที่เกิดขึ้น เลยต้องออกมาปะฉะดะเพื่อให้ทุกฝ่ายออกมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันว่า “ขายก่อนแล้วช้อนคืน” ดีไหมเจ้าคะ

Back to top button