โมนิก้าและทีมงาน
-
คอลัมน์
เจาะกระดาน : ฝืนดันหุ้น
วานนี้เป็นอีกครั้งที่ตลาดหุ้นไทยเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน และพร้อมจะมีอะไรมาเซอร์ไพรส์ได้ตลอดเวลา “โมนิก้า” ถึงเหนื่อยใจสุด ๆ เมื่อเห็นดัชนีสวิงสวายเกินจะรับได้ เพราะอาการพุ่งพรวดขึ้นไปเกือบ 20 จุด ต่อจากนั้นรูดพรวดเดียวลงไปกว่า 20 จุด ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 1,335.72 จุด ลบไป 4.80 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7.43…
-
คอลัมน์
เจาะกระดาน : หมดลุ้น
สิ่งที่นักเล่นควรทำความเข้าใจอีกครั้งก็คือ แรงเทขายที่ออกมาในล็อตนี้เต็มไปด้วยความหวาดกลัว จึงไม่มีใครคิดจะถือหุ้นลงทุนอีกต่อไป ซึ่งเป็นแรงกดดันที่ทำให้ดัชนีอ่อนตัวลงไปเรื่อย ๆ “โมนิก้า” ถึงไม่เคยถือโทษโกรธเคืองคนที่กระหน่ำซัมเมอร์เซลครั้งใหญ่ เพราะมันเป็นเคพีไอที่ใช้วัดคุณภาพของผู้จัดการกองทุน เดี๊ยนถึงได้แต่ทำใจยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นพะยะค่ะ
-
คอลัมน์
เจาะกระดาน : สงครามยังไม่จบ..อย่าเพิ่งนับศพ
วันนี้ขอเรียนให้แฟนคลับรับรู้ทั่วไปอีกครั้งว่า ความวิตกกังวลต่อไวรัสมรณะที่แผ่ขยายวงกว้างจนเกินควบคุมที่เกิดขึ้นในคราวนี้ กลายเป็นตัวกัดกร่อนความมั่นใจการลงทุนทั่วโลก “โมนิก้า” ถึงไม่มีเวลาไปแสวงหาข้อมูลในเชิงบวกมาเล่าสู่กันฟังเพื่อเสริมสร้างกำลังใจ เพราะสิ่งที่ต้องรู้ให้ได้ก็คือ เรื่องน่ากลัวที่เกิดขึ้นจะจบเมื่อไหร่ ? เพราะตรงนั้นจะเป็นจุดเช็กความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมดได้ชัดเจนสุดพะยะค่ะ
-
คอลัมน์
เจาะกระดาน : โอเวอร์โซลด์ ไร้ความหมาย
นี่เป็นอีกครั้งที่ทำให้ “โมนิก้า” รับรู้ถึงอาการ panic ของนักเล่นมีมากเกินจะบรรยายจริง ๆ และแสดงออกด้วยการสาดหุ้นทิ้งแบบไม่เห็นแก่หน้าอินทร์หน้าพรหมแบบนี้ เดี๊ยนมองไม่ออกจริง ๆ ว่าดัชนีจะหยุดลงตรงบริเวณไหนกันแน่! จึงไม่ฟันธงว่าดัชนีควรจะเด้งกลับตรงบริเวณไหน ? เพราะแรงขายที่ออกมาในเที่ยวนี้ มันเกิดจากอารมณ์ที่มีความกลัวเยอะมากนะจะบอกให้
-
คอลัมน์
เจาะกระดาน : ต่ำสุดตั้งแต่เกิดมา ?
ก่อนอื่นต้องขอเรียนให้ทราบว่า “โมนิก้า” จั่วหัวแรง ๆ เพื่อทำให้นักเล่นได้มีเวลาหยุดคิดเรื่องต่าง ๆ ที่ถาโถมเข้ามาเป็นระลอก จนเกิดความสงสัยถึงบทสรุปของเรื่องจะลงเอยแบบไหน ? มันเป็นประเด็นที่นักเล่นต้องทำตัวให้กลมกลืนกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และไม่จำเป็นต้องทำตัวเป็นชาวสวนในช่วงที่สถานการณ์รอบด้านยังคลุมเครือ เพราะรังแต่จะสร้างปัญหาให้กับพอร์ตหุ้นของตัวเองทั้งนั้นเจ้าค่ะ
-
คอลัมน์
เจาะกระดาน : ถล่มขายบลูชิพ
การร่วงลงอย่างหนักของดัชนีวานนี้ ถือเป็นภาพสะท้อนที่ทำให้นักเล่นได้รู้ว่า สถานการณ์เศรษฐกิจโลกย่ำแย่เกินจะรับได้! จึงพากันขายหุ้นทิ้งแบบไม่คิดชีวิต หลังมองไม่เห็นสัญญาณการฟื้นตัวจะเกิดขึ้นได้ในอนาคตอันใกล้ “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นเข้าใจบริบทของการลงทุนเที่ยวนี้เต็มไปด้วยความกลัว ซึ่งเป็นไฟต์บังคับที่ทำให้นักเล่นสถาบันต้องหันไปถือเงินสดเยอะขึ้นกว่าเดิมไงล่ะคะ
-
คอลัมน์
เจาะกระดาน : เลิกเพ้อเจ้อ (เสียที)
ใจจริง “โมนิก้า” ไม่ได้ประสงค์ร้ายต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทย และไม่ได้มีจุดมุ่งหมายให้ตลาดหุ้นไทยต้องพังพาบไม่เป็นท่า แต่เผอิญเห็นกูรูในตลาดหุ้นยังส่งเสียงเชียร์ให้ลุยซื้อหุ้นต่อไปเรื่อย ๆ จึงรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่งที่เห็นเรื่องที่พูดขัดแย้งกับสิ่งที่เกิดขึ้น เลยต้องออกมาปะฉะดะเพื่อให้ทุกฝ่ายออกมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันว่า “ขายก่อนแล้วช้อนคืน” ดีไหมเจ้าคะ
-
คอลัมน์
เจาะกระดานหุ้น : เชฟโลเล..หรือ.เชฟโรเลต
ตอนแรก “โมนิก้า” ตั้งใจเม้าท์ถึงการทรุดตัวของดัชนีจนหลุดแนวรับสำคัญ 1,500 จุด เพื่อสะท้อนภาพความไม่มั่นใจของผู้เล่นที่มีต่อผลงานของบริษัทในไตรมาส 1 แต่เผอิญดันเหลือบไปเห็นข่าว จีเอ็ม รายงานผลกระทบต่อตลาดหุ้นวอลล์สตรีท ซึ่งเป็นผลมาจากการปิดโรงงานสายการผลิตรถยนต์เชฟโรเลต จึงอยากเม้าท์ถึงประเด็นนี้เพื่อทำให้ทุกคนมองไปในภาพเดียวกันว่า ดราม่ายังไม่จบแค่นี้แน่ ๆ เจ้าค่ะ
-
คอลัมน์
เจาะกระดาน : หลุด 1,500 แน่!
หลายคนอาจไม่ชอบฟังเรื่องร้ายที่มีการพูดกรอกหูเป็นประจำ แต่สำหรับนักเล่นจิตแข็งย่อมเข้าใจเหตุผลในการนำเสนอของเดี๊ยนอย่างถ่องแท้ และคงมองเห็นภาพเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตแบบทะลุปรุโปร่ง “โมนิก้า” ถึงอยากบอกกับแฟนคลับขาลุยทั้งหลายว่า “กำไร” หรือ “ขาดทุน” มันขึ้นอยู่กับปลายนิ้วของท่านจะเลือก “เคาะขวา” หรือ เคาะซ้าย” นะจะบอกให้
-
คอลัมน์
เจาะกระดาน : กองไม่ดัน..ก็จบเห่
หากดูจากผลงานของบริษัทจดทะเบียนที่ทยอยประกาศออกมาเรื่อย ๆ ต้องยอมรับโดยดุษฎีบัณฑิตว่า ไม่น่าประทับใจเลยจริง ๆ ซึ่งเป็นชนวนเหตุให้นักเล่นต้องขายหุ้นทิ้งเพื่อปิดความเสี่ยงอีกครั้งนั้น “โมนิก้า” กลับมองเป็นจังหวะสวนกลับเร็วของพวกที่ถนัดเล่นรอบ แถมในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมาก็เคาะกันสั้น ๆ ในกรอบ 1,500-1,550 จุด จึงไม่มีประเด็นที่ทำให้เดี๊ยนเกิดความรู้สึก “ตื่นเต้น” หรือ “หงอยเหงา” ไงล่ะคะ