โมนิก้าและทีมงาน

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : งบไม่สวย!

    ข้อมูลที่ “โมนิก้า” นำมาใช้เป็นประจำทุกครั้งในช่วงที่บริษัทจดทะเบียนทยอยประกาศงบออกมาเรื่อย ๆ ล้วนพุ่งเป้าไปยังเรื่องกำไรที่โชว์ล่าสุดเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ไหม ? หรือแม้กระทั่งผลขาดทุนที่ออกมาสะท้อนถึงจุดต่ำสุดของการทำธุรกิจแล้วใช่ไหม ? ซึ่งเป็นตัวแปรที่บอกให้รู้ว่า ราคาหุ้นควรอยู่บริเวณไหน ? และตลาดหุ้นไทยพร้อมจะเดินหน้าขนาดไหน ? เดี๊ยนถึงอยากให้นักเล่นเข้าใจกิมมิกตรงนี้ด้วยนะจ๊ะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : ขยะใต้พรม?

    วานนี้เป็นอีกครั้งที่ดันไปสอดรู้สอดเห็นเรื่องชาวบ้านโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะในจังหวะที่กำลังเดินชมนกชมไม้อย่างเพลิดเพลินเจริญใจ ดันไปได้ยิน เสียงตุ๊กแก..อุ๊ย..เสียงจิ้งจก ร้องทักเป็นระยะว่า ดีลหลายดีลมีอะไรลึก ๆ ซ่อนใต้พรมเป็นจำนวนมาก จึงอยากให้แฟนคลับทำความเข้าใจเรื่องข่าวลือที่เกิดขึ้นด้วยใจที่เป็นกลาง เพื่อเป็นการเปิดรับสิ่งใหม่ ๆ ที่กำลังจะเข้ามาในช่วงสิ้นปีไงล่ะคะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : ดันแรง (อย่าเหลิง)

    หลังจาก “โมนิก้า” ลองนั่งประเมินสถานการณ์ตลาดหุ้นไทยในรอบสัปดาห์พบว่า ตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในภาวะผันผวน และมีความเป็นไปได้ที่ดัชนีจะ “กระชากขึ้นแรง” และ “กระชากลงแรง” เพราะตัวแปรที่ทำให้ดัชนีมีอาการเป๋ไปเป๋มา ล้วนมาจากอิทธิพลของตลาดหุ้นต่างประเทศแทบทั้งสิ้น ผนวกกับนักลงทุนกลุ่มต่าง ๆ หันมาใช้กลยุทธ์เข้าทำเร็ว เพื่อความปลอดภัยในทรัพย์สิน จึงต้องดูการเล่นแบบวันต่อวันเจ้าค่ะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : ทุบหนัก!

    หากมองตามหน้าเสื่อของตลาดหุ้นไทยจะเห็นว่า สถานการณ์โดยรวมยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ แรงขายของฝรั่งตาน้ำข้าวยังไหลออกมาเป็นระยะ ส่วนกองทุนตัวจี๊ดยังซื้อหุ้นแบบกะปริบกะปรอย ดัชนีถึงออกลูกตุปัดตุเป๋ตลอดทั้งวัน ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 1,592.52 จุด ลบไป 8.97 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.84 หมื่นล้านบาท เดี๊ยนยังมองเป็นเรื่องปกติของตลาดหุ้นไทยนะจะบอกให้

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : ควันหลง ธปท.

    ดูเหมือนสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยจะเรื่อย ๆ เปื่อย ๆ ขึ้นบ้าง ลงบ้าง ตามกระแสข่าวที่มีออกมาในแต่ละวัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกคนเห็นจนชินตา และไม่มีอะไรเซอร์ไพรส์จากที่เป็นอยู่มากนักหรอก! ในขณะเดียวกันกลับมีเรื่องราวที่กลายเป็นขี้ปากให้ชาวหุ้นได้เม้าท์มอยกันอย่างสนุกสนาน เพราะหน่วยงานที่ควรจะทำตัวเชิงรุกดันมีอาการเกียร์ว่างเป็นเวลานานเกินไป บรรดาขาเผือกเลยสงสัยว่า เกิดอะไรขึ้นพะยะค่ะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : ปากไม่อยู่สุข ?

    ในแวดวงตลาดหุ้นมีเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับพวกปากปีจอให้เห็นตลอดเวลา และทุกครั้งที่บรรดาลูกกระเป๋งของแก๊งขาปั่นน่องเหล็กออกข่าวมั่วทีไร! “โมนิก้า” มักเห็นคนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ผสมโรงกับเขาด้วยทุกครั้ง จึงกลายเป็นบรรยากาศการลงทุนที่สุดแสนจะน่าเบื่อหน่าย เพราะสมาคมแมงลือปั่นกระแสแบบไม่ดูดำดูดีอะไรทั้งนั้น จนผู้คนในวงการส่งเสียงเชียร์ให้ตามสอยบรรดาเหลือบไรตลาดหุ้นที่ชอบใช้ “เฟซปลอม ไลน์ปลอม” ไงล่ะคะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : ธรรมชาติลงโทษ

    อันที่จริงทุกคนรู้อยู่แก่ใจว่า ตลาดหุ้นไทยคงขยับขึ้นได้ไม่ไกลจากที่เป็นอยู่สักเท่าไหร่หรอก ? เพราะผลงานที่ทำได้ในช่วงหลังไม่เข้าตากรรมการเลยพับผ่าซิ ! “โมนิก้า” ถึงมักมีอาการโลเลใจทุกครั้งที่เห็นดัชนีทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะคนที่ทำให้ดัชนีเดินทางมาไกลกว่าทุกครั้ง มักเกิดจากแรงซื้อของพวกกองทุนตัวจี๊ดเป็นประจำ จึงไม่ไว้ใจพฤติกรรมของนักเล่นกลุ่มนี้ “เดี๋ยวซื้อ เดี๋ยวขาย” นะจะบอกให้

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : เด้งกลับช่วงสั้น ?

    สัปดาห์ก่อนชมรมแมงเม่า กับชมรมแมงโม้ ผสมโรงกับชมรมแมงลือ ส่งสารผ่านทางนกพิราบ เพื่อสอบถามถึงหุ้นทีเด็ดรายตัวที่เล่นตามสัญญาณเทคนิคแค่ช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ในระหว่างรอความชัดเจนเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก.. มีหุ้นตัวไหน น่ารักน่าลุ้นบ้าง ? รวมทั้งผลลัพธ์ที่ออกมาได้หรือเสีย ไม่ว่ากันอยู่แล้ว! ขอแค่อย่างเดียวก็คือ อย่าแนะนำหุ้นที่มีสภาพคล่องต่ำ เพราะมันออกตัวค่อนข้างลำบาก และยังทรมานใจอย่างรุนแรงเมื่อรู้ว่า “อยู่คนเดียวบนดอย” น่ะค่ะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : ขายก่อน..ซื้อทีหลัง(อีกแล้ว)

    หลังจากต้องนั่งลุ้น นอนลุ้น ยืนลุ้น จนตัวโก่งว่าดัชนีจะวิ่งกลับขึ้นไปทดสอบยอดเก่าบริเวณ 1,650 จุดได้หรือไม่? ในที่สุดก็ต้องผิดหวังไปตามกัน เพราะดัชนีดันทรุดหนักสองวันติด ๆ ก่อนจะลงมาปิดที่ 1,593.28 จุด ลบไป 27.69 จุด ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขาย 7.66 หมื่นล้านบาท พร้อมกับทำให้นักลงทุนได้เห็นแรงขายที่ทยอยออกมาตลอดเวลานั้น “โมนิก้า”…

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : แรงเป็นประวัติการณ์

    ช่วงนี้ “บ้านเรา เมืองเรา” มีแต่เรื่องแปลกประหลาดชวนให้ปวดหัวไม่เว้นแต่ละวัน ถึงขนาดผู้คนทั่วไปเกิดอาการอินเนอร์แบบจัดเต็มทุกกระบวนท่านั้น “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องพอทำใจรับได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะคนส่วนใหญ่มักมีลักษณะ “อารมณ์” อยู่เหนือ “เหตุผล” เป็นประจำ ส่งผลให้อะไรหลายอย่างวุ่นวายไม่รู้จักจบจักสิ้นสักที เดี๊ยนถึงได้แต่ปลงกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในแต่ละวันไงล่ะคะ

Back to top button