โมนิก้าและทีมงาน

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : ในร้ายก็มีดี

    บรรยากาศการลงทุนในช่วงสัปดาห์ก่อนมีหลากเรื่อง หลายรสชาติ ผสมปนเปกับดราม่าเล็ก ๆ น้อย ๆ ตามประสานักลงทุนที่ถนัดเล่นแบบ “เข้าทำเร็ว” เดี๊ยนถึงแอบกระซิบแฟนคลับตั้งแต่วันก่อนว่า ต้องทันเกม! พวกอ่อนต่อโลกอาจไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น แต่คนที่เข้าใจเรื่องเกมการเงิน ย่อมเข้าใจถึงรูปแบบของการลงทุนในเที่ยวนี้อย่างถ่องแท้ เพราะหุ้นเริ่มออกอาการลิ้นห้อยให้เห็นเป็นระยะ จึงต้องขอเวลานอกเพื่อพักเอาแรงนิดหน่อยเจ้าค่ะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : ขึ้นชั่วคราว

    สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยย่ำแย่มาหลายวันได้มีโอกาสเด้งดึ๋งช่วงสั้น ๆ แรงซื้อพุ่งตรงไปยังหุ้นบลูชิพเป็นลำดับแรก หลังจากนั้นก็แพร่กระจายไปยังหุ้นขนาดกลางและหุ้นขนาดเล็ก แต่สิ่งที่เห็นหลังจากแรงซื้อภาคเช้าทำเอา “โมนิก้า” ถึงกลับปลง เพราะบรรยากาศการลงทุนจากหน้ามือพลิกกลับเป็นหลังมือได้อย่างง่ายดาย แสดงให้เห็นว่าไม่มีอะไรจีรังสำหรับการเล่นเที่ยวนี้เจ้าค่ะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : ลุ้นไม่ขึ้น

    รูปแบบของการลงทุนในเที่ยวนี้ไม่มีอะไรมากมายให้ต้องขบคิดจนถึงขั้นนอนไม่หลับ เพราะต่างคนก็รู้ว่ามีการตั้งธงไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่า ต่างชาติยังจะขายหุ้นไทยต่อไปอย่างไม่มีกำหนด ส่วนกองทุนจะหันมาเก็บหุ้นแบบประปราย เพื่อความคล่องตัวเท่านั้น ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวนักลงทุนรายย่อยต่างรู้เป็นอย่างดีอยู่แล้ว แต่ยังเดินหน้าตั้งเข้าซื้อหุ้นต่อไปอย่างไม่ลดละ!

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : ไหลตามน้ำ

    การเคลื่อนตัวของดัชนีวานนี้สะท้อนแนวความคิดเกี่ยวกับ “ลงซื้อ ขึ้นขาย” ได้เป็นอย่างดี และยังทำให้นักเล่นรอบผลัดตัวเล่นกันอย่างสนุกสนาน แถมประเด็นที่วิตกจริตก่อนหน้านี้ก็ทำเหมือนเป็นเพียงแค่ลมพัดผ่านเข้ามาแล้วผ่านไป แต่ “โมนิก้า” ขอเตือนไว้ก่อนว่าอย่าเพิ่งชะล่าใจ เพราะลักษณะดังกล่าวเป็นเพียงต้องอาศัยจับจังหวะเข้าเล่นแต่ละรอบให้ดีเจ้าค่ะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : ดิ่งลงเหว

    เป็นอีกครั้งที่ “โมนิก้า” ได้เห็นนักเล่นหุ้นทั่วสารทิศออกอาการส่ายหัว หลังดัชนีเซถลาลงหนักตั้งแต่เปิดการซื้อขายภาคเช้า ทำเอามิตรรักแฟนเพลงใจไม่อยู่กับร่องกับรอย! แถมเล่นถล่มหุ้นบลูชิพเสียจนราบเป็นหน้ากลอง โดยเฉพาะหุ้นสื่อสารตัวไหนที่ว่าเก๋า ๆ โดนสาดออกมาแค่ไม่กี่รอบก็ลงมานอนกองอยู่กับพื้นไม่มีแรงเดิน ทำเอาบรรยากาศการลงทุนถึงได้อึมครึมตลอดทั้งวันไงล่ะคะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : เขื่อนแตก!

    ตลาดหุ้นท้ายสัปดาห์ที่ผ่านมามีแรงขายออกมาตลอดทั้งวันจนลงไปทำจุดต่ำสุดอยู่แถว ๆ 1,580.08 จุด ลักษณะที่เกิดขึ้นทำให้ “โมนิก้า” ถึงกับต้องเอากลับไปคิดเป็นการบ้านถึงเหตุการณ์รอบด้านที่มีอยู่ขณะนี้ ว่าปัจจัยลบหรือปัจจัยบวกมีอิทธิพลต่อการซื้อขายของหุ้นมากกว่ากัน ? ซึ่งคำตอบเห็นได้จากรูปแบบของดัชนีตลอดสัปดาห์ที่แล้วทำให้เดี๊ยนหวาดระแวงอยู่ไม่น้อย ดังนั้นระยะสั้นต้องจับตาแนวรับ 1,580 จุดเอาไว้ให้มั่น เพราะหากหลุดลงไปหุ้นได้มีรูดเหมือนเขื่อนแตกแน่เจ้าค่ะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : ตั้งฐานรอบที่ 3

    การอ่อนตัวของดัชนีจนหลุดแนวรับสำคัญบริเวณ 1,600 จุดเป็นครั้งที่ 3 กลายเป็นเรื่องพื้น ๆ สำหรับความคิดของ “โมนิก้า” ไปเสียแล้ว เพราะของมันเห็นกันทนโท่ว่า ไม่มีแรงจูงใจที่ทำให้นักเล่นกลุ่มสถาบันทุ่มทุนซื้อหุ้นอย่างเอาเป็นเอาตายเหมือนเมื่อก่อน ส่งผลให้การขึ้นลงเที่ยวนี้เป็นเพียงการเล่นรอบธรรมดา จึงไม่มีความจำเป็นต้องแสวงหาเหตุผลมาซัพพอร์ตอีกต่อไปนะจ๊ะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : ย่ำแล้วไป VS ย่ำแล้วลง

    ดูเหมือนบททดสอบของตลาดหุ้นไทยจะมีออกมาไม่หยุดหย่อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจในประเทศชะลอตัว ปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองที่มีให้เห็นเป็นระยะ ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไม่เป็นเหมือนกับที่โม้ไว้ หรือแม้กระทั่งความขัดแย้งทางผลประโยชน์ของประเทศมหาอำนาจ ล้วนเป็นต้นเหตุที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยประสบกับภาวะ “กลืนไม่เข้า คายไม่ออก” เป็นเวลาเนิ่นนานหลายเดือนแล้วนะจ๊ะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : พักเอาแรง

    ก่อนอื่นขอเรียนให้ทราบตามตรงว่า การทรุดตัวของดัชนีลงมายืนอยู่ที่ 1,609.38 จุด ลบไป 5.42 จุด ด้วยมูลค่า 8.8 หมื่นล้านบาท น่าจะเป็นเรื่องที่ทุกคนพอจะเข้าใจ เพราะเมื่อไหร่ที่ดัชนีวิ่งขึ้นไปอย่างร้อนแรง มันต้องมีการขายทำกำไรออกมาเสมอ ในเมื่อปัจจัยบวกในประเทศยังไม่โผล่ขึ้นมาให้เห็นเป็นรูปธรรม จึงจะยังคงได้เห็นแรงยื้อยุดฉุดกระชากกันไปอีกพักใหญ่ “โมนิก้า” ถือเป็นช็อตที่นักเล่นต้องเตรียมความพร้อมในทุกด้านตั้งแต่เนิ่น ๆ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : 1,600 จุด โลกสวย

    ทันทีที่ดัชนีวิ่งทะลุแนวต้านทางจิตวิทยา 1,600 จุดขึ้นไปปิดที่ระดับ 1,614.80 จุด บวกไป 17.08 จุด อย่างรวดเร็ว ก็ดูเหมือนว่าช่วงนี้จะหยิบฉวยอะไรก็ได้กำไรไปหมด จนชาวหุ้นเกิดความฮึกเหิมว่า เป้าหมายที่เคยตั้งกันไว้ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 1,700 จุด ไม่ไกลเกินเอื้อม ยิ่งมีเรื่องของ MSCI เข้ามาเกี่ยวข้อง ความคาดหวังเม็ดเงินต่างชาติจึงกลับมาอีกครั้ง ทำให้เชื่อว่าต่อจากนี้จะได้เห็นนักลงทุนหลายประเภทสามัคคีกันดันหุ้นให้อยู่ขาขึ้นไปอีกนาน

Back to top button