โมนิก้าและทีมงาน

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : สงครามยังไม่จบ

    สถานการณ์ของตลาดหุ้นยังไม่มีอะไรแน่นอน และมีปัญหาหลายอย่างให้นักลงทุนต้องขบคิด “โมนิก้า” ถึงพยายามบอกกับทุกคนว่า “สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร” เพราะสิ่งที่เคยคิดเคยฝัน ไม่เคยเป็นไปตามฝัน ผนวกกับตัวแปรจากต่างประเทศก็มีอิทธิพลค่อนข้างมาก จึงสมควรแก่เวลาลดพอร์ตการลงทุน หรือหากจะใช้ยุทธการดักซื้อหุ้นแล้วรอขาย น่าจะเป็นทางออกที่ดีสำหรับพวก “กล้าได้ อายอด” พะยะค่ะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : เน้นทำรอบ

    ข้อมูลการลงทุนชุดหนึ่งที่ทุกคนรับรู้กันเป็นอย่างดีก็คือ นักลงทุนสถาบันเป็นตัวการที่ทำให้ดัชนี “ขึ้นแรง ลงแรง” โดยอาศัยตลาดหุ้นต่างประเทศเป็นตัวชี้นำ ว่าวันนี้ควรขาย หรือวันนี้ควรซื้อ ส่งผลให้ภาพการเคลื่อนตัวของดัชนีนับตั้งแต่ต้นปีผันผวนอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเป็นชนวนเหตุที่ทำให้เดี๊ยนยังคงยืนกรานให้แมงเม่าปีกแข็งเทน้ำหนักไปที่เรื่อง “เน้นทำรอบ” พร้อมกับพยายามท่องให้ขึ้นใจว่า “กำไรน้อย ๆ แต่นาน ๆ” นะจ๊ะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : พวกหัวขวด

    วันนี้เป็นอีกหนึ่งครั้งที่ “โมนิก้า” ขอเม้าท์มอยเรื่องชาวบ้านมากกว่าเรื่องตลาดหุ้น เพื่อทำให้ทุกคนได้เห็นธาตุแท้ของกลุ่มคนต่าง ๆ ที่เข้ามาตักตวงผลประโยชน์เข้ากระเป๋าตัวเองให้ได้มากสุดเท่าที่จะทำได้ พร้อมกับใช้ความพยายามในการโยนขี้ให้คนอื่นเป็นแพะรับบาปแบบนี้ เดี๊ยนถึงต้องกระโจนเข้ามาสู่มหากาพย์ตะลุยฟ้องดะกับเขาด้วยอีกคน เพราะมันเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับศึกสายเลือดอย่างแท้จริงเจ้าค่ะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : ฝรั่งทิ้งหุ้นหมื่นล้าน

    หากมองสรรพกำลังที่ทำให้ดัชนีสามารถเดินหน้าขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไปแบบเจาะลึก “โมนิก้า” คงต้องเอ่ยปากชมพวกกองทุนตัวจี๊ดที่กระโจนไล่ราคาหุ้นอีกรอบ จนดัชนีเด้งกลับจากจุดต่ำสุดที่บริเวณ 1,605 จุด ขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,634.46 จุด บวกไป 7.45 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.85 หมื่นล้านบาท ก็เป็นวัฏจักรเดิมที่นักเล่นต่างคุ้นเคยกับสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอย่างดี จึงไม่ต้องอธิบายว่าดัชนีจะทะยานขึ้นไปทดสอบแนวต้านเดิมบริเวณ 1,650 จุดอีกไหม?

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : คอพับ คออ่อน

    วันนี้เดี๊ยนพูดได้เต็มปากเต็มคำว่า อาการแกว่งตัวไปมาของตลาดหุ้นไทยที่เกิดขึ้นยามนี้ คงเป็นผลมาจากปัจจัยหลายอย่างยังไม่เข้าที่อย่างที่ควรจะเป็น ส่งผลให้แรงซื้อเข้ามาแบบกระมิดกระเมี้ยนเสียเหลือเกิน “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นเข้าใจอาการเมาค้างที่เกิดกับตลาดหุ้นไทย ล้วนเป็นเอฟเฟกต์ที่มาจากอิทธิพลตลาดหุ้นต่างประเทศแทบทั้งสิ้นพะยะค่ะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : เชียร์หุ้นรอง

    หลังจากเม้าท์เรื่องหุ้นของคนมีกะตังค์ไปเยอะแยะพอสมควร เดี๊ยนเลยถือโอกาสนี้เม้าท์ถึงหุ้นรองที่ไม่ค่อยเป็นข่าวสักเท่าไหร่ดีกว่า เพราะมีหลายแง่มุมที่น่าจะทำให้ราคาหุ้นทะยานขึ้นอย่างร้อนแรงอีกครั้ง ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้พวกเบี้ยน้อยหอยน้อยได้ลิ้มลองของแปลกใหม่ในชีวิต จึงขอโฟกัสไปที่หุ้นเหล่านั้นมากเป็นพิเศษ เพื่อทำให้ภาพของการเล่นเที่ยวนี้ชัดขึ้นกว่าเดิมนะจ๊ะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : เสียรังวัด ?

    ต้องยอมรับว่า บรรยากาศการลงทุนวานนี้มี 2 อารมณ์ที่ทำให้นักลงทุนแต่ละกลุ่มมีฟีดแบ็กที่แตกต่างกันไปอย่างสิ้นเชิง “โมนิก้า” เลยอยากเม้าท์ถึงเรื่องนี้มากเป็นพิเศษ เพื่อเป็นการสะท้อนให้เห็นภาพของนักเล่นที่มีสายป่านยาวมักได้เปรียบพวกที่มีสายป่านสั้นเป็นประจำ จึงอยากให้นักเล่นเข้าใจสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยที่ลุ่ม ๆ ดอน ๆ มันเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ นะจะบอกให้

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : วัดพลัง AWC

    ก่อนจะเข้าสู่ช่วงของการเม้าท์แตก ข่าวเด็ด..ประเด็นร้อน อย่างเต็มตัว “โมนิก้า” ขอพูดถึงการแกว่งตัวไปมาทั้งในแดนลบและแดนบวกของดัชนี ก่อนจะจบลงตรงการยืนปิดที่ระดับ 1,616.18 จุด บวกไป 4.01 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.22 หมื่นล้านบาทสักเล็กน้อย เพราะอาการที่เกิดขึ้นทำให้รู้ว่า ตลาดหุ้นไทยยังไม่นิ่งพอ และยังมีโอกาสพลิกไปพลิกมาตลอดเวลา จึงไม่ควรเอาตัวไปยึดติดกับอะไรมากนะจ๊ะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : โดนหนัก..จนเป๋

    ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา “โมนิก้า” มีความคิดเห็นเกี่ยวกับตลาดหุ้นไทยไปในทางบวกมากกว่าทางลบอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นผลมาจากตลาดหุ้นไทยดำดิ่งเข้าสู่โซนขายมากเกินไปเป็นเวลาหลายวัน จึงน่าจะถึงเวลาเด้งกลับอย่างแข็งแกร่งเสียที แต่ทันทีที่ดัชนีทะยานกลับขึ้นมาได้จริง ๆ ดันไม่มีวอลุ่มเข้ามาซัพพอร์ตอย่างที่ควรจะเป็น ภาพในมุมบวกที่เคยมีอยู่ในหัวเดี๊ยนเลยหายไปหมดในพริบตาไงล่ะคะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : ขึ้นแบบกลวง ๆ ?

    “โมนิก้า” รู้สึกว่า ข่าวสารหลายอย่างที่ผ่านเข้าหูซ้าย ทะลุออกหูขวา ในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมานี้ จะเป็นเรื่องที่สร้างความหนักใจให้กับคนในแวดวงตลาดเงินและตลาดทุนอย่างรุนแรง (หุ้นจะไปต่อไหมหนอ!!) ส่วนกลุ่มเอสเอ็มอีที่อยู่นอกตลาดหุ้นก็เกิดอาการกระอักกระอ่วนใจจนพูดไม่ออก เพราะเงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง กำลังกลายเป็นอุปสรรคในการทำธุรกิจ และขัดขวางการบริหารเศรษฐกิจภายในประเทศ ส่งผลให้ผู้รู้ทั้งหลายแหล่กุมขมับกันถ้วนหน้านะคะ

Back to top button