โมนิก้าและทีมงาน

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : ฝืนธรรมชาติ

    ตลาดหุ้นไทยวานนี้เป็นอีกครั้งที่ “โมนิก้า” ได้ยินได้ฟังเหล่านักเล่นหุ้นทั่วสารทิศร้องอุทานเป็นเสียงเดียวกันว่า หงอยเหงาเสียเหลือเกิ๊นนน ไล่เรียงตั้งแต่ดัชนีเซถลาลงหนักตั้งแต่เปิดการซื้อขายหุ้นตัวไหนที่ว่าเก๋าก็พากันโดนสาดออกมานอนกองอยู่กับพื้นจนแทบมองไม่เห็นหุ้น (ดี ๆ) ที่พอจะทำให้ชุ่มฉ่ำเสียบ้างเลย บรรยากาศการลงทุนถึงดูอึมครึมตลอดทั้งวันไงล่ะคะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : มะเขือเผาเรียกพี่

    ช่วงนี้ดูเหมือนกระแสดราม่าเรื่องต่าง ๆ จะเยอะแยะเต็มไปหมด จนหลายคนเริ่มออกอาการคล้อยตามอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งที่เห็นกันทนโท่ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นมันมีเหตุผลที่ทำให้เกิดเช่นนั้น! บรรดามิตรรักแฟนเพลงจึงควรยอมรับความจริงของเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น เพื่อจะได้มองเห็นหนทางในภายภาคหน้าได้แจ่มแจ๋วขึ้นกว่าเดิม ซึ่งเป็นการป้องกันการคิดเข้าข้างตัวเองแบบสุดลิ่มทิ่มประตูไงล่ะคะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : ไม่ชัดเจน..ก็ลงต่อ

    “โมนิก้า” ถือเป็นคนรุ่นใหม่ที่พยายามมองโลกในแง่ดีเสมอมา แต่สุดท้ายกลับไม่เป็นอย่างที่คาดคิดไว้แม้แต่นิดเดียว เพราะปัจจัยรอบด้านสร้างปัญหาที่หนักหน่วง จนทำให้เดี๊ยนต้องเปลี่ยนมุมมองไปในทางที่เลวร้ายลงเรื่อย ๆ นาทีนี้จึงไม่ต้องพูดถึงประเด็นความมั่นใจในการลงทุนจะกลับมาเมื่อไหร่ เพราะสิ่งที่ต้องควานหากันให้เจอก็คือ “ข่าวร้ายจะจบลงเมื่อไหร่??” พะยะค่ะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : งัดไม่ขึ้น

    ถ้าวิเคราะห์สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยแบบละเอียด จะเห็นว่าดัชนียังคงวนเวียนไปมาอยู่ที่ระดับ 1,600-1,680 จุด โดยที่หุ้นบลูชิพยังมีอาการเมาหมัด เซื่องซึม หงอยเหงา คลำทางไม่เจอ แรงเทขายกระหน่ำทิ้งอย่างไม่ลดละ ผนวกกับ “กองทุนตัวจี๊ด” กับ “ฝรั่งตาน้ำข้าว” ทำตัวเป็นพวกลิงหลอกเจ้า บอกดัชนีจะไปเท่านั้นเท่านี้ แต่พอเผลอทีไร พี่ท่านกระหน่ำสาดหุ้นไม่เลี้ยง พร้อมกับข้ออ้างเดิม ๆ ต้องการลดความเสี่ยงนะจะบอกให้

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : โบรกฯ ดันท้ายตลาด

    การเคลื่อนไหวของดัชนียังไม่อยู่กับร่องกับรอย ไล่เรียงจากการปรับตัวลดลงไปทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,630.39 จุด แต่สุดท้ายมีแรงซื้อช่วงท้ายตลาดฯ ลากให้หุ้นวิ่งกลับขึ้นมาแตะระดับ 1,643.76 จุด ปรับตัวขึ้น 7.01 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.99 หมื่นล้านบาท การแกว่งตัวลักษณะนี้มันเป็นแพตเทิร์นที่เคยได้เห็นกันมาแล้วหลายครั้ง ในเมื่อตลาดฯ ยังขาดปัจจัยชี้นำมักมีการแกว่งตัวแบบเสียทิศทางให้เห็นระหว่างวัน ดังนั้นการปรับตัวขึ้นแรงรอบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นช็อตอันตราย…

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : วนมาที่เดิม

    วานนี้มีการตั้งคำถามการเล่นหุ้นเที่ยวนี้มีอะไรที่เป็นปัญหาสำหรับนักเล่น “มือเก่า” และ “มือใหม่” บ้างไหม? และคำตอบที่เดี๊ยนได้รับจากนักเล่นหลายรายก็หนีไม่พ้นคำว่า ทำไมหุ้นไม่ขึ้นสักที! ซึ่งเป็นอีกครั้งที่ทำให้รู้ว่า นักเล่นกำลังติดกับดักทางความคิดของตัวเอง และมีการประเมินทิศทางตลาดหุ้นสวยหรูเกินความจริง จึงเกิดอาการทุกข์ระทมขมขื่นทางจิตใจไม่เว้นในแต่ละวันเจ้าค่ะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : ไม่ถึงฝั่งฝัน (สักที)

    หากมองอาการ “เป๋ไป เป๋มา” ของดัชนีในเที่ยวนี้แบบเลือกข้างแบบสุดโต่ง และตีความเข้าข้างตัวเองในทุกมิติ ย่อมทำให้นักเล่นเกิดอาการเบื่อ ๆ เซ็ง ๆ มากขึ้นเป็นทวีคูณ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นไม่เคยเป็นเหมือนกับที่คาดการณ์ไว้เลยสักอย่าง จนนำไปสู่การถกเถียงที่ว่า วันนี้จะเอาปัจจัยไหนมาเป็นแรงหนุนให้ดัชนีขึ้นอย่างบูรณาการสักที? ส่งผลให้ภาพของการลงทุนยังมีลักษณะแทงกั๊กต่อไปแบบไม่มีกำหนดนะนายจ๋า!

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : โยกพอร์ตใกล้เสร็จ?

    ประเด็นคำพูดที่ “โมนิก้า” ได้ยินตลอดทั้งวานนี้ยังหนีไม่พ้นเรื่องการเสียชีวิตของพริตตี้สายเอ็นฯ กับเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุรวยจากการเล่นหุ้น ซึ่งแต่ละคนก็มีแนวทางวิเคราะห์ที่แตกต่างกันไปอย่างสิ้นเชิง ก่อนจะสรุปทิ้งท้ายกันอย่างพร้อมเพรียงว่า ทุกวันนี้มี Fake News เยอะแยะไปหมด! ทางที่ดีรอฟังการแถลงข่าวจากคุณหมาต๋า (ตำรวจ) ไม่กี่วันจากนี้ น่าจะเป็นคำตอบที่ดีสุดนะจะบอกให้

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : ขายเพราะกลัว

    วงนี้เรื่องมั่ว ๆ ซั่ว ๆ เกี่ยวกับด้านพริตตี้กลายเป็นประเด็นฮอตฮิต มาแรงแซงทางโค้งทุกอย่างอย่างไม่น่าเชื่อ “โมนิก้า” หันไปทางไหน ด้านไหน ก็มีแต่คนเม้าท์เรื่องฉาว ๆ คาว ๆ ของคนในวงการเอ็นเตอร์เทน (เจ้าของบ้านรวยจากเล่นหุ้น และลงทุนบิตคอยน์) จนเดี๊ยนรู้สึกทะแม่ง ๆ กับพฤติกรรมของคนเหล่านี้มากเสียเหลือเกิน จึงต้องกระโจนลงไปสืบค้นข้อมูลให้แน่ชัดว่า…

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : ความจริงช่างโหดร้าย!

    ความผันผวนของตลาดหุ้นไทยที่เกิดขึ้นในยามนี้ทำให้ “โมนิก้า” ต้องกลับไปเปิดตำราพิชัยสงครามซุนวู เพื่อทำการทบทวนเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นแบบละเอียดยิบ หลังหัวสมองของเดี๊ยนนึกถึงคำพูดที่ว่า “รู้เข้า รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง” ขึ้นมาแบบไม่ได้ตั้งใจ จนเกิดไอเดียปิ๊งปั๊งขึ้นมาว่า วันนี้ต้องลุยหุ้นแบบมีสติสตางค์ ไม่ซี้ซั้วกระโจนเข้าใส่หุ้นที่ไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้าแบบพร่ำเพรื่อนะจะบอกให้

Back to top button