โมนิก้าและทีมงาน
-
คอลัมน์
เจาะกระดาน : ขึ้นด้วยการเมือง..ลงด้วยความจริง
*จริง ๆ “โมนิก้า” อยากเล่าเรื่องการลงทุนด้านบวกให้แฟนคลับได้รับรู้กันอย่างเต็มอุรา เพื่อบิลต์อารมณ์ให้นักเล่นเกิดความฮึกเหิมในการตะลุยซื้อหุ้น แต่เผอิญดันมีเรื่องสอดแทรกขึ้นมาจากพวกปากหอยปากปู เดี๊ยนเลยต้องเงี่ยหูฟังสิ่งที่บรรดาขาเผือกเม้าท์กันอย่างสนุกสนาน มันมีเหตุผลที่น่ารับฟังมากขนาดไหน ? และเป็นประโยชน์กับพลพรรคแมงเม่าจริงไหม ?
-
คอลัมน์
เจาะกระดาน : เด้งขึ้น หรือ เด้งลง
*เดิมที “โมนิก้า” ตั้งใจจะพูดถึงการแกว่งตัวไปมาของดัชนีในทิศทางขาลงร่วมเดือน เพราะเป็นเรื่องที่แฟนคลับให้ความสนใจอย่างล้นหลาม และยังกระทบกระเทือนกับจิตใจพวกมือใหม่หัดเทรดจังเบ้อเร่อ เดี๊ยนถึงชอบเกริ่นนำด้วยบรรยากาศการลงทุนเป็นประจำ พร้อมกันนั้นยังอธิบายถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตลาดหุ้นไทย ไม่ได้มีอะไรที่แย่ลงกว่าเดิมแม้แต่นิดเดียวนะจะบอกให้
-
คอลัมน์
เจาะกระดาน : เจอกัน 1,600 จุด!
*ดูเหมือนอารมณ์ของนักเล่นจะแตกกระเจิงแบบกู่ไม่กลับ เพราะมองไปทางไหน..ด้านไหน ก็มีแต่ข่าวด้านลบคอยรบกวนจิตใจตลอดเวลา บวกกับแรงเทขายของฝรั่งขี้นกยังไม่สะเด็ดน้ำสักที (ไปขุดของที่ไหนมาขายก็ไม่รู้) ส่งผลให้บรรยากาศการลงทุนย่ำแย่ลงไปกว่าเดิม พร้อมกับมีความเห็นไปในทางเดียวกันว่า ดัชนีน่าจะลงไปตั้งต้นแถวบริเวณ 1,600 จุดอีกรอบนะจะบอกให้
-
คอลัมน์
เจาะกระดาน : ไม่สะเด็ดน้ำ
*มูฟเมนต์ของตลาดหุ้นไทยยังเป็นสถานการณ์ที่ไหลลงต่อเนื่องแบบไม่มีลิมิต จนสุดท้ายปิดที่ระดับ 1,658.56 จุด ลบไป 9.35 จุด หรือขึ้นไป 0.56% ด้วยมูลค่า 4.07 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” มองว่าตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสอ่อนตัวลงไปต่อหลังหลุดแนวรับ 1,665 จุด หนำซ้ำข้อมูลที่ได้พบเจอเป็นตัวชี้สัญญาณว่าดัชนีถึงมีโอกาสไหลรูดลงไปต่อถึง 1,640 จุด เพราะแรงขายยังไม่สะเด็ดน้ำเจ้าค่ะ
-
คอลัมน์
เจาะกระดาน : กล้าซื้อไหม?
*คำพูดที่ “โมนิก้า” ได้ยินตลอดทั้งสัปดาห์หนีไม่พ้นคำว่า “กล้าซื้อไหม ?” หลังผู้เล่นหน้าใหม่ และหน้าเก่าเกิดอาการชักเกร็งเมื่อเห็นดัชนีไหลลงแบบไม่มีลิมิต จนทะลุแนวรับย่อยของแต่ละวันลงมาเรื่อย ๆ จนล่าสุดลงมายืนปิดที่ระดับ 1,667.91 จุด ลบไป 15 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.22 หมื่นล้านบาท มันเป็นช็อตที่ทำให้เห็นว่า สถานการณ์แย่กว่ากูรูบางรายเคยแสดงองค์ความรู้ไว้นะคะ
-
คอลัมน์
เจาะกระดาน : PE สูงโดนถล่มก่อน !
* การร่วงลงอย่างต่อเนื่องของดัชนีในเที่ยวนี้ทำให้รู้ว่า อะไรที่มากเกินไปย่อมไม่เป็นผลดีกับตลาดหุ้น เมื่อผสมผสานกับข่าวลบที่ไหลออกมาจากตลาดหุ้นทั่วโลก ย่อมเป็นแรงกดดันให้นักลงทุนสถาบันเร่งระบายแบบไม่คิดชีวิต หลังผู้เล่นเหล่านั้นยึดหลัก “ขายก่อนเซฟกว่า” ซึ่งเป็นแท็กติกง่าย ๆ ที่แมงเม่าสามารถศึกษาได้ด้วยตนเอง และนำไปพัฒนารูปแบบการเล่นของตัวเองได้อีกด้วยนะจ๊ะ
-
คอลัมน์
เจาะกระดาน : ดันเช้า..บ่ายทุบ
*หากดูตามหน้าเสื่อของการเล่นเที่ยวนี้ “โมนิก้า” พูดได้ทันทีว่า การเคาะขวารัว ๆ มักเกิดขึ้นในช่วงที่ตลาดหุ้นต่างประเทศเปิดเขียวปี๋กันเป็นจำนวนมาก โดยได้รับแรงหนุนจากดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นอย่างร้อนแรง ซึ่งเป็นเรื่องที่เพิ่งเม้าท์แตกกันไปหยก ๆ เมื่อวันก่อน เดี๊ยนเลยย้ำหัวหมุดประเด็นดังกล่าวเพื่อทำให้แฟนคลับได้เข้าใจรูปแบบการเล่นเที่ยวนี้มากขึ้นกว่าเดิมไงล่ะคะ
-
คอลัมน์
เจาะกระดาน : ทีเด็ดน้องดาว !
*ในเมื่อการเล่นหุ้นเที่ยวนี้แนบอิงกับอิทธิพลตลาดหุ้นต่างประเทศเป็นหลัก ก็ไม่มีความจำเป็นต้องไปหาเหตุผลอื่นมาอธิบายให้เปลืองเนื้อที่กระดาษ เพราะแค่มองท่าทีของดัชนี “ดาวโจนส์” ควบคู่กับ “ดาวโจนส์ฟิวเจอร์” ก็พอเดาทางออกแล้วว่า กองทุนตัวแสบจะหันมาตลบหลังเราอีกหรือเปล่า ? หรือแม้กระทั่งฝรั่งขี้นกยังทิ้งหุ้นไทยหนักเหมือนเดิมอีกไหม ? เจ้าค่ะ
-
คอลัมน์
เจาะกระดาน : ลากแล้วทุบ
* หากมองการเคลื่อนตัวของดัชนีในรูปแบบของ W-Shape เป็นเวลาทั้งสิ้น 2 เดือนครึ่งก็จะรู้ได้ทันทีว่า สาเหตุที่ทำให้ดัชนีแกว่งตัวในลักษณะนี้มาจากพฤติกรรม “ลากแล้วทุบ” ของนักเล่นกลุ่มสถาบันในประเทศทั้งนั้น “โมนิก้า” ถึงไม่อยากไปถามหาเหตุผลอื่นให้เสียสายตา เพราะแค่รู้ว่า เรื่องทั้งหมดไม่สวยงามเหมือนที่คิดเลยสักครั้ง จึงเลิกทำตัวเป็นพวกโลกสวยสักทีเถอะค่ะ
-
คอลัมน์
เจาะกระดาน : ดาวโจนส์ทำพิษ
*วันนี้ขอเบรกอารมณ์นักลงทุนที่กำลังรู้สึกห่อเหี่ยวสุด ๆ หลังจากดัชนีดาวโจนส์รูดมหาราชไปกว่า 800 จุดเมื่อคืนก่อน จนกลายเป็นแรงกดดันให้ตลาดหุ้นไทยรูดลงมาปิดที่ 1,682.89 จุด ลบ 38.93 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 8.28 หมื่นล้านบาท ด้วยเรื่องขึ้นทะเบียนพร้อมกับเก็บภาษีหมาแมวตัวละ 450 บาท หากไม่ทำตามเสียค่าปรับจำนวน 25,000 บาท…