โมนิก้าและทีมงาน

  • คอลัมน์

    เจาะกระดานหุ้น : เปิดบวก..ปิดลบ

    *จริง ๆ “โมนิก้า” ไม่อยากจั่วหัวออกมาในทำนองนี้ แต่เผอิญเหตุการณ์เดิม ๆ เวียนมาบรรจบอีกรอบ จึงไม่มีทางเลี่ยงไปพูดอย่างอื่น ผนวกกับประเด็นดังกล่าวก็เชื่อมโยงกับสิ่งที่อีเมี้ยนปากมากอย่างอีฉันได้เกริ่นนำไว้เมื่อวันก่อน จึงอยากกระตุกต่อมความคิดของนักลงทุนอีกสักรอบ หลังจากนั่งบวกลบคูณหารอย่างละเอียดแล้วพบว่า “ขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่ เหลาลงไปเป็นบ้อง..” นะซี

  • คอลัมน์

    เจาะกระดานหุ้น : พึงสังวรณ์

    * สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในยามที่ผู้เล่นหลักกลับมาเป็นผู้เป็นคนเหมือนปกติ อะไรต่อมิอะไรก็ดูดีไปหมดเสียทุกอย่าง ทำให้แรงซื้อก็พรั่งพรูเข้ามาเป็นจำนวนมาก จนดัชนีพุ่งขึ้นไปถึงระดับ 1,648.74 จุด แต่หลังจากนั้นกลับโดนกระหน่ำย่ำยีอย่างหนักหน่วง จนดัชนีร่วงลงไปที่ 1,628.16 จุด ก่อนจะเด้งกลับขึ้นมาปิดที่ 1,634.98 จุด บวกไป 0.54 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5 หมื่นล้านบาท…

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : กลัวก็ต้องถอย!

    *หากติดตามสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยอย่างกระชั้นชิดจะรู้ว่า ลักษณะการเล่นของพวกนักลงทุนสถาบันจะเป็นแบบ “เข้าทำ รีบชิ่ง” ออกทันที พร้อมกับมีการอารัมภบทไปเรื่อยเปื่อย ขณะที่แมงเม่าพันธุ์อึดกลับใช้ยุทธวิธี “ลงซื้อ ขึ้นขาย” กันอย่างแพร่หลายนั้น “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องของสูตรใครสูตรมัน ไม่มีอะไรตายตัวเหมือนในตำรา เพราะสิ่งที่ทุกคนต้องยึดถือเป็นสรณะคือ “กำไร” นะจะบอกให้

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : สะเด็ดน้ำ?

    *วันนี้ “โมนิก้า” ขออนุญาตจั่วหัวบทสนทนาพูดคุยกันแบบตรง ๆ เพื่อสื่อสารกับมิตรสหายทั่วราชอาณาจักรตลาดหุ้นว่า การเด้งขึ้นอย่างร้อนแรงก่อนจะมาปิดที่ 1,664.26 จุด บวกไป 24.72 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6 หมื่นล้านบาท มันเป็นแรงซื้อที่แท้จริงของการกลับเข้ามาลงทุนใช่ไหม? และเป็นการรีบาวด์เพื่อทำกำไรในระยะสั้นหรือเปล่า? จึงต้องพูดถึงเรื่องนี้เพื่อทำให้แฟนคลับมองเห็นความเสี่ยงในอนาคตได้ชัดขึ้นกว่าเดิมไงล่ะคะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : บลูชิพเลือดสาด

    *วันนี้ “โมนิก้า” กล้าพูดอย่างเต็มปากเต็มคำว่า บรรดาแมงเม่าเกิดอาการเข็ดขยาดกับการแกว่งตัวลงของดัชนีแบบไม่มีลิมิตชีวิตเกินร้อยกันเป็นจำนวนมาก จึงเริ่มมีการส่งเสียงร้องโอดโอยดังระงมไปทั่วทุกห้องค้า พร้อมกับได้ยินเสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างชัดเจน เหมือนเป็นภาพสะท้อนที่ทำให้เห็นหนทางในการลงทุนเต็มไปด้วยขวากหนามตลอดเส้นทางนะจะบอกให้

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : ลงยาว?

    *สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยมีประเด็นให้คิดไม่กี่เรื่องด้วยกัน และแต่ละเรื่องก็ส่งผลโดยตรงกับการเคาะขวา “โมนิก้า” ถึงมองการเคลื่อนไหวของดัชนีในเที่ยวนี้ไม่ค่อยจะสู้ดีสักเท่าไหร่! หลังดัชนีทรุดตัวลงแรงต่อเนื่องหลายครั้ง (รีบาวด์แรงได้บางครั้ง แต่ยอดของการเด้งก็ต่ำกว่าครั้งก่อน) จึงไม่มีความจำเป็นที่แมงเม่าต้องทุ่มทุนสร้างมหาศาล และกระโจนเข้าไป แสดงจริง..เจ็บจริง อิอิอิ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : ฝรั่งดองทำแสบ

    *หากย้อนรำลึกความหลังอันหวานชื่นกันสักหน่อยจะเห็นว่า ในช่วงที่นักเล่นทุกกลุ่มกำลังเดินผ่านทุ่งลาเวนเดอร์ อะไรก็ดูหอมหวนสวยงามไปหมดทุกสิ่งอย่าง พอผ่านพ้นช่วงเวลาอันแสนสุขดังกล่าวปุ๊บ ก็เกิดรายการจ้วงแทงยับชนิดที่นับแผลไม่หวัดไม่ไหว ล้วนเป็นเกมที่ทุกคนพยายามทำความเข้าใจกันมาหลายครั้ง แต่ยังไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงก็เท่านั้นเองจ้า

  • คอลัมน์

    เจาะกระดานหุ้น : ฝากรอยเท้า (อีกครั้ง)

    *การขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ของเฟดเที่ยวล่าสุด จนทำให้อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นขยับขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 1.75-2.00% พร้อมกับส่งสัญญาณเตรียมขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในช่วงครึ่งปีหลัง (รวมปีนี้ขึ้นทั้งหมด 4 ครั้ง) “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่ส่งผลโดยตรงกับฝรั่งตาน้ำข้าว เพราะนักเล่นกลุ่มนี้จะต้องโยกเงินออกจากตลาดหุ้นไทยอีกระลอก ซึ่งจะทำให้สภาพของตลาดหุ้นไทยอยู่ในทิศทาง side way down อีกพักใหญ่ ๆ…

  • คอลัมน์

    เจาะกระดานหุ้น : ย่ำขึ้น..ย่ำลง

    *ประเด็นของการเม้าท์จนน้ำลายแตกฟองกระจายไปทั่วค้า คงเป็นเรื่องราวของข่าวฉาวที่เกิดขึ้นในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เริ่มมีบทสรุปที่ชัดเจนมากขึ้นเรื่อย ๆ “โมนิก้า” ถึงเห็นแฟนคลับจับเข่าคุยกันอย่างสนุกสนาน(แต่น้ำตาตกใน) พร้อมกับแสดงความคิดเห็นในหลายเรื่องที่เกิดขึ้นแบบสุดซอย (เชื่อแบบนั้น เลยคิดแบบนั้น) เท่ากับเป็นการย้ำให้เดี๊ยนรู้ว่า ทุกวันนี้ยังไม่มีอะไรดีขึ้นสักเท่าไหร่นะจ๊ะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : ดันหุ้นใหญ่

    * หากมองช็อตการเล่นหุ้นแบบวันต่อวัน “โมนิก้า” ยิ่งเข้าใจบทบาทของกองทุนตัวแสบมากขึ้นเรื่อย ๆ และรู้ซึ้งถึงคำว่า “เข้าทำเร็ว” ต้องรวบรัดตัดตอนให้ทันท่วงที ภาพของการขึ้นลงของดัชนีเลยขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของนักลงทุนกลุ่มดังกล่าว เดี๊ยนถึงพยายามให้นักเล่นอ่านเกมในเที่ยวนี้ให้ออก เพื่อกำหนดจุดซื้อขายได้แม่นยำขึ้นกว่าเดิม และทำให้พอร์ตหุ้นมีความยืดหยุ่นสูงไงล่ะคะ

Back to top button