โมนิก้าและทีมงาน

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : ยุคทอง IPO

    * ช่วงนี้เดินทางไปไหนมาไหน ก็มีแต่คนชวนพูดคุยเรื่องหุ้น IPO เยอะแยะเต็มไปหมดทุกซอกทุกมุมนั้น “โมนิก้า” เข้าใจว่า เป็นเรื่องของจังหวะเวลาที่มาบรรจบกันพอดี ทำให้ผู้คนสนใจเรื่องหุ้นน้องใหม่มากกว่าประเด็นอื่นๆ จนกลายเป็นตัวเลือกอันดับแรกในช่วงที่ตลาดหุ้นกำลังปรับฐานเพื่อโอกาสเทกตัวกลับขึ้นไปรอบใหม่ มันเป็นการสะท้อนให้เห็นว่า ของเก่าขึ้นมาใกล้เต็มแวลูหรือเปล่า?

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : ขายแพง ซื้อถูก

    * ในที่สุดกองทุนตัวแสบก็แสดงตัวตนที่แท้จริงให้เห็นว่า “ขายแพง ซื้อถูก” ต้องจับจังหวะจะโคนให้เหมาะเหม็ง ถึงจะได้กำไรเนื้อๆ เน้นๆ และยังเป็นการสะท้อนภาพให้เห็นว่า เมื่อใดที่กองทุนตัวแสบหวนกลับเข้ามาซื้อหุ้นอย่างจริงจัง ทุกอย่างมักดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม และยังทำให้บรรยากาศการลงทุนดีขึ้นตามไปด้วย แต่ครั้งใดที่กองทุนตัวแสบเริ่มขายทำกำไร ดัชนีมักมีอาการตุปัดตุเป๋ให้เห็นเป็นประจำ “โมนิก้า” จึงขอปรบมือดังๆ ให้กับความสามารถของกองทุนที่ปล่อยของได้อย่างแยบยลเจ้าค่ะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : ขึ้นเพื่อขาย

    * หลายคนอาจมองสาวน้อย “โมนิก้า” เป็นพวกแม่ค้าปากตลาด ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน และบางทีก็ชอบแส่หาเรื่องไม่หยุดหย่อนนั้น น่าจะเป็นความเข้าใจผิดอย่างใหญ่หลวง เพราะความจริงคือ เดี๊ยนมักเข้าไปอยู่ตรงที่เขามีเรื่องกันเป็นประจำ จึงกลายเป็นคนที่รับรู้ความไม่ชอบมาพากลหลายอย่าง และยังได้เห็นการใช้เล่ห์เหลี่ยมของพวกสายดาร์กอีกต่างหากนะจะบอกให้

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : บลูชิพนำเกม

    *ตลาดหุ้นไทยกลับมาทะยานขึ้น 10 จุด มาที่ระดับ 1,711.74 จุด บวกไป 10.27 จุด ด้วยมูลค่าซื้อขาย 5.35 หมื่นล้านบาท อัดแน่นด้วยแรงซื้อหุ้นบลูชิพ หลังจากสัปดาห์ก่อนมีแรงเทขายถล่มออกมาจนลงไปนอนหงายเก๋งกันหลายราย แรงซื้อในรอบนี้ “โมนิก้า” ถึงยังไม่ให้ความสำคัญอะไรมาก เพราะนอกจากจะไม่มีอะไรหวือหวาแล้วยังมองว่าเป็นเพียงแค่การเข้าไปเก็บของหลังราคาร่วงแรงยังไงล่ะเจ้าค่ะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดานหุ้น : ฝรั่งทิ้ง(อีกแล้ว)

    * ประเด็นที่ทำให้ “โมนิก้า” ต้องออกมาย้ำหัวหมุดอีกรอบแบบเนื้อๆ เน้นๆ คงเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการแกว่งตัวไปมาของดัชนี ซึ่งแสดงให้เห็นว่า นักลงทุนสถาบันยังแทงกั๊ก โบรกเกอร์ยังชอบเล่นทีเผลอ แมงเม่ายังตะลุยเป็นรอบๆ ภาพการลงทุนถึงอยู่ในลักษณะ “ขึ้นไม่สุด ลงไม่หนัก” พร้อมกับแกว่งตัวออกด้านข้างมาระยะหนึ่ง มันเป็นภาพสะท้อนที่ทำให้รู้ว่า ได้เวลาตั้งหลักใหม่แล้วจริงๆ นะคะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : ถอยตั้งหลัก

    * สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในยามที่ผลประกอบการออกมาไม่โดนใจ นักลงทุนสถาบันเกิดอาการลังเลใจอย่างหนัก มักทำให้บรรยากาศการลงทุนอึมครึมมากขึ้นกว่าเดิม จนดัชนีหลุดแนวรับระยะสั้นลงไปอย่างง่ายดาย และจวนเจียนจะหลุดแนวรับสำคัญที่สองตลอดเวลา “โมนิก้า” ถือเป็นสัญญาณของการถอยทัพเต็มตัว ไม่มีความจำเป็นต้องนอนกอดหุ้นต่อไปเรื่อยๆ นะจะบอกให้

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : หมดแรง

    * หลังจาก “โมนิก้า” ใช้เวลากับการเผือกเรื่องชาวบ้านไปพอสมควร วันนี้ก็ถึงเวลากลับมาดูความจริงที่เกิดขึ้นกับตลาดหุ้นไทยเสียที หลังฟันด์โฟลว์ไหลเข้ามาแบบกระท่อนกระแท่น รวมทั้งท่าทีของนักเล่นในประเทศก็ไม่สุดซอยเหมือนเมื่อก่อน ดัชนีเลยมีอาการเดินหน้า 1 ก้าว ถอยหลัง 2 ก้าว และมีความเป็นไปได้ที่ดัชนีจะลงมาตั้งฐานบริเวณเส้นแนวรับ 10 วันตรงระดับ 1,712 จุดนะจะบอกให้

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : สู่รู้เหลือเกิน

    * เดิมที “โมนิก้า” ตั้งจะใจเม้าท์ถึงบรรยากาศการลงทุน ควบคู่กับหุ้นรายตัวที่ทำให้หัวใจแมงเม่ารู้สึกกระปรี้กระเปร่า เพราะเป็นประเด็นที่ทำให้แมงเม่าโหนกระแสได้ทันที และยังมีโอกาสทำให้เงินในกระเป๋าเพิ่มขึ้นได้อีกด้วย แต่เผอิญพรายกระซิบที่แฝงตัวอยู่ในที่ต่างๆ ร้อยท่อต่อสายตรงมายังโต๊ะทำงานของอีฉัน พร้อมกับสาธยายถึงพวกสู่รู้ที่ชอบโชว์พราวในตอนจบ..โอเว่อร์แอ๊คติ้งเกินไปหน่อยนะคะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : เด้งสู้

    *วานนี้แฟนคลับของ “โมนิก้า” มีอาการ วี้ด..ว้าย..กระตู้วู้ กันยกใหญ่ก็เพราะดัชนีเด้งกลับจากแดนลบ ขึ้นมา ยืนปิดในแดนบวกแบบค้านสายตากรรมการ จนชมรมแมงโม้แห่งประเทศไทยต้องเปิดเวทีสัมมนาย่อยตามห้องค้าต่างๆ เท่ากับเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า อะไรก็เกิดขึ้นได้ในตลาดหุ้นไทย จึงไม่ควรยึดติดกับรูปแบบการเล่นเดิมๆ และควรปรับเปลี่ยนให้เข้าสถานการณ์ปัจจุบันพะยะค่ะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : จุดวัดใจ

    * อาการที่ดัชนีพยายามสู้สุดตัว ก่อนกระชากขึ้นพรวดเดียว จนมาปิดที่ระดับ 1,716.03 จุด บวกไป 7.19 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.99 หมื่นล้านบาท เหมือนเป็นตอกย้ำสถานการณ์ตลาดหุ้นไทยยังไม่นิ่งเท่าที่ควร แรงซื้อถึงกระจัดกระจาย ไม่เป็นรูปขบวนเหมือนก่อนหน้านี้ ผสมผสานกับบรรยากาศของตลาดหุ้นต่างประเทศที่พากันเขียวยกแผง ย่อมเป็นแรงขับเคลื่อนที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยพลอยรับอานิสงส์ไปด้วยนะคะ

Back to top button