โมนิก้าและทีมงาน

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : นายแบงก์งานเข้า!

    * บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา มีแต่เรื่องที่ทำให้ผู้คนมึนงงกันอย่างถ้วนหน้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดัชนีทะยานขึ้นอย่างร้อนแรง หรือเรื่องราวของผู้คนในตลาดหุ้น ก็มีเรื่องราวชวนสงสัยเยอะไม่ใช่เล่น “โมนิก้า” รู้สึกถึงความอลวนอลเวงกำลังแผ่กว้างมากขึ้นไปเรื่อยๆ จึงขอเป็นตัวกลางขมวดปมเรื่องฉาวมาพูดในคราวเดียวกันไปเลยดีกว่านะคะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : ทุบโชว์

    *ช่วงนี้ไปไหนก็มีแต่คนชวน “โมนิก้า” เม้าท์ถึงความเป็นไปได้ที่ดัชนีจะขึ้นไปยืนเหนือระดับ 1,700 จุดตลอดเวลา ซึ่งเป็นการย้ำหัวหมุดว่า ทุกคนมีความเชื่อไปทางนั้นเป็นส่วนใหญ่ และเรื่องนี้ก็มีฐานความคิดมาจากการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในปี 61 ซึ่งจะทำให้เม็ดเงินจากนักลงทุนต่างชาติไหลเข้ามาลงทุนอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย พร้อมกับดันดัชนีทะยานขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,800 จุดอีกด้วยนะจ๊ะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : ต้องรู้ทันเกม!

    * นี่เป็นอีกครั้งที่ “โมนิก้า” เกิดความรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่ง เมื่อพี่เม่าส่วนใหญ่ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า รอบนี้ลงทุนแบบชิวๆ “ขึ้นก็ขาย ลงก็ซื้อ” ไม่มีอะไรต้องคิดมาก ซึ่งถือเป็นกระบวนยุทธ์ที่ทำให้นักลงทุนรายย่อยตีกินได้ครั้งแล้วครั้งเล่า ผนวกกับการเข้ามาลงทุนของนักลงทุนต่างชาติในช่วงหลังๆ ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา..เดี๊ยนถึงไม่สนใจว่า ฝรั่งขี้นก และ กองทุนตัวแสบ จะคิดอย่างไรกับตลาดหุ้นไทยพะยะค่ะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : โอเวอร์แอคติ้ง

    * สถานการณ์ตลาดหุ้นไทยยังคงปรับตัวขึ้นแรงอย่างต่อเนื่อง เพียงระยะเวลาแค่ 2 วันดัชนีปรับตัวขึ้นถึง 22 จุด มาปิดที่ 1,688.64 จุด แต่การปรับตัวขึ้นในครั้งนี้กลับไม่ได้ทำให้ “โมนิก้า” รู้สึกตื่นเต้น หลังจากเห็นกองทุนตัวแสบเก็บหุ้นอย่างทะลักทะลวง โดยการเก็บหุ้นรอบนี้มองเป็นเหตุผลอื่นไม่ได้นอกจากการเข้าซื้อก่อนเปิดขายกองทุน LTF-RMF ช่วงปลายปี จากเจตนาเข้าทำราคาหุ้นให้ผลงานดูดีขึ้น แต่อย่าลืมว่าพอถึงไตรมาส 1…

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : 3 วันดี 4 วันไข้

    * สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์ที่ผ่านมายังคงวนเวียนอยู่ในรูปแบบเดิมๆ เหมือนพายเรือวนอยู่ในอ่าง ยิ่งออกแรงพายมากเท่าไหร่ก็วนกลับมาที่เดิมเร็วขึ้นเท่านั้น เพราะอาการขึ้นๆ ลงๆ ของดัชนีที่ปรับตัวขึ้นแรงแต่วันต่อมาก็ออกอาการเป๋ปรับตัวลงมาเท่าเดิม ล่าสุดดัชนีพุ่งมาปิดที่ 1,673.16 จุด ปรับตัวขึ้น 6.80 จุด หรือ 0.41% จากวันก่อนหน้า ด้วยมูลค่า 5.70 หมื่นล้านบาท

  • คอลัมน์

    เจาะกระดานหุ้น : สวิงจนน่ากลัว

    * สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในยามนี้เป็นอะไรที่น่ากลัวมากๆ เพราะการแกว่งตัวทั้งในแดนบวกและแดนลบของดัชนีในเที่ยวนี้ทำให้ “โมนิก้า” มีอาการหายใจไม่ทั่วท้องเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังภาพการเคลื่อนตัวหลักโอนเอนไปในทิศทางแกว่งตัวลงชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ บวกกับปัจจัยบวกใหม่ที่เข้าจะเข้ามากระตุ้นความเชื่อมั่นก็ยังเป็นเพียงวิมานเมฆเสียด้วยแบบนี้ น้องโมพูดได้ทันทีว่า อย่าไว้ใจอะไรเด็ดขาดนะคะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : ขึ้นไม่ไหว

    * ดูไป..ดูมา สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทย และตลาดหุ้นต่างประเทศ วนเวียนซ้ำซาก เสมือนพายเรือวนในอ่างก็จริง แต่ยังคงเป็นเรื่องที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป เพราะเป็นจังหวะของการเรียนรู้ปัจจัยต่างๆ ว่ามีผลกระทบต่อตลาดหุ้นมากขนาดไหน? อาทิเช่น ทิศทางของดัชนีดาวโจนส์ ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ภาวะเศรษฐกิจโลก การก่อการร้ายที่เกิดขึ้นทั่วโลก หรือแม้กระทั่งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ ฯลฯ ล้วนเป็นเรื่องที่มีนัยสำคัญนะคะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดานหุ้น : ผีลืมหลุม?

    * เปิดหัวสัปดาห์นี้มีแต่เรื่องชวนให้ปวดเศียรเวียนเกล้า จนผู้เล่นบางคนถึงกับมีอาการมือไม้สั่นดิกๆ มันเป็นผลมาจากนักลงทุนหันมาเล่นเกมเสี่ยงกันเยอะขึ้น ส่งผลให้สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยเต็มไปด้วยความผันผวน ซึ่งเห็นได้จากอาการวิตกจริตกันจนเกินเหตุ แต่บางครั้งก็แสดงอาการห้าวเป้งจนเกินงาม จึงคาดหวังอะไรได้ไม่มากนักในยามนี้นะจะบอกให้

  • คอลัมน์

    เจาะกระดานหุ้น : จี๊ดทุกตัว!

    * สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยไม่หมูอีกต่อไป เพราะทันทีที่นักเล่นกลุ่มสถาบันทำตัวเป็นนักเทรดดิ้ง ตลาดหุ้นก็เต็มไปด้วยความผันผวน ซึ่งเห็นได้จากหุ้นที่ขึ้นแรงก่อนหน้านี้ ถัดมาอีกวันก็โดนกระหน่ำเทขาย ต่อจากนั้นก็กลับมาดันหุ้นแบบสุดลิ่มทิ่มประตู “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับทำตัวให้คุ้นเคยกับสิ่งที่เกิดขึ้นในเที่ยวนี้ เพราะเรายังต้องอยู่กับเรื่องนี้อีกนานพะยะค่ะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดานหุ้น : ตัวใครตัวมัน

    *สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยตอนนี้จะเห็นว่าตัวเลขการขายของนักเล่นแต่ละกลุ่มออกมาเป็นแบบที่ “โมนิก้า” คาดคิดไว้ก่อนหน้าไม่มีผิด ไล่เรียงมาตั้งแต่นักลงทุนสถาบันสาดหุ้นทิ้ง 803 ล้านบาท ฟากฝรั่งตาน้ำข้าวทิ้งหุ้นไทยไปถึง 1.97 พันล้านบาท กลายเป็นรายย่อยที่ซื้อหุ้น 1.82 พันล้านบาท สัญญาณการขายครั้งนี้คงจะเริ่มทำให้นักลงทุนออกอาการแข้งขาสั่นขึ้นมาบ้างแล้ว แต่มองว่าการขายรอบนี้เป็นเพียงแค่น้ำจิ้ม ที่ยังจะต้องตบท้ายด้วยของคาว และของหวานถึงจะครบสูตร ช็อตต่อไปนี้เดี๊ยนออกโรงเลยว่าอาจไม่เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ไม่กล้าได้กล้าเสี่ยง

Back to top button