อรชุน

  • คอลัมน์

    พาราสาวะถี : อรชุน

    วันศุกร์ที่ผ่านมาราชกิจจานุเบกษาประกาศใช้แผนปฏิรูปประเทศ 11 ด้าน มีผลตั้งแต่ 7 เมษายนที่ผ่านมา น่าสนใจ คงหนีไม่พ้นแผนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง สิ่งที่เห็นหลักๆ คือการเสนอให้รัฐบาลสนับสนุนการออกพระราชบัญญัติการเสริมสร้างวัฒนธรรมทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ในที่นี้ไม่ทราบเจตนาว่าเพื่ออะไร เพราะความจริงสิ่งสำคัญสำหรับวัฒนธรรมตามระบอบประชาธิปไตยที่ทั่วโลกยึดถือ คือให้ประชาชนมีสิทธิและเสรีภาพเท่าเทียมกัน

  • คอลัมน์

    พาราสาวะถี : อรชุน

    ไม่ว่าจะสร้างกำแพงหรือทำสงครามข่าวสารล้างสมองประชาชนอย่างไร ก็ยากที่คนจะเชื่อว่า สิ่งที่รัฐบาลคสช.ดำเนินการมาตั้งแต่ยึดอำนาจจนกระทั่งเข้าสู่โค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง จะไม่ใช่นโยบายประชานิยม ไม่ว่าประชารัฐ ไม่ว่าไทยนิยม ยั่งยืน ล้วนแล้วแต่เป็นการใช้งบประมาณแผ่นดินเพื่อสร้างความนิยมให้กับตัวผู้บริหารทั้งสิ้นไม่ว่าจะมาจากปลายกระบอกปืนหรือเลือกตั้งก็ตาม

  • คอลัมน์

    พาราสาวะถี : อรชุน

    ถือเป็นมวยถูกคู่คนดูถูกใจ ถ้าไม่ใช่ปาหี่นี่ก็เป็นประเภทนักมวยที่เคยซ้อมค่ายเดียวกันมา และเชื่อว่าตามเส้นทางไม่น่าจะโคจรมาพบกัน แต่ด้วยพลังแห่งอำนาจสุดท้ายมันจึงหนีกันไม่พ้น ที่ว่าทั้งหมดไม่ใช่เรื่องของวงการหมัดมวยแต่อย่างใด หากเป็นเรื่องของการเมืองระหว่างผู้มีอำนาจอย่าง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา กับอดีตผู้สนับสนุนหลักให้เกิดการรัฐประหารอย่าง อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

  • คอลัมน์

    พาราสาวะถี : อรชุน

    บอกมาโดยตลอดประเด็นปลดล็อกพรรคการเมืองทำกิจกรรมที่คสช.ใช้บรรทัดฐานคำว่าสงบเรียบร้อยมาเป็นตัวชี้วัด คำถามคืออะไรคือความสงบ หากหมายถึงต้องไม่มีกลุ่มใดๆ เคลื่อนไหว นักการเมืองต้องไม่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล ถ้าเช่นนั้นคงไม่มีทางที่จะได้เห็นพรรคการเมืองดำเนินกิจกรรม เพราะทุกอย่างมันอยู่ที่การตีความของผู้มีอำนาจทั้งสิ้น

  • คอลัมน์

    พาราสาวะถี : อรชุน

    คงเห็นบทสรุปที่รออยู่ข้างหน้าแล้วสำหรับปมแหวนเพชรและนาฬิกาหรูของ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หลังจากปิดปากเงียบไม่ตอบคำถามนักข่าวต่อประเด็นดังว่ามาหลายเดือน เมื่อวันศุกร์ก็ปักหลักสาธยายเป็นฉากๆ ยอมรับแหวนเพชรเป็นของพ่อที่ให้แม่ไว้ราคาไม่ถึง 2 แสนบาท จึงไม่ต้องแจ้งบัญชีทรัพย์สินต่อป.ป.ช.

  • คอลัมน์

    พาราสาวะถี : อรชุน

    หากจะมองการร่วมประชุมกับกกต.ของ 55 พรรคการเมืองเก่าเป็นเพียงแค่พิธีกรรม เพื่อให้กกต.ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งคสช.ที่ 53/2560 ก็ไม่ผิดนัก โดยมีความหวังของพรรคการเมืองเป็นตัวเรียกแขก เพราะรู้ทั้งรู้ การพูดคุยที่เกิดขึ้นท้ายที่สุดก็หาคำตอบอะไรไม่ได้ ดังที่ ศุภชัย สมเจริญ ประธานกกต.บอกเรื่องที่พรรคการเมืองขอส่วนใหญ่ต้องเป็นการตัดสินใจของผู้มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ซึ่งก็คือคสช.นั่นเอง

  • คอลัมน์

    พาราสาวะถี : อรชุน

    ประเดิมประชุมภายใต้การอนุญาตของคสช.เป็นพรรคการเมืองแรก สำหรับพรรคใหม่ที่ไปยื่นจดแจ้งกับกกต.นั่นก็คือ พรรคทางเลือกใหม่ ที่มี ราเชน ตระกูลเวียง อดีตประธานกปปส.นนทบุรีเป็นแกนหลัก โดยใช้โรงแรมริเวอร์ไซด์เป็นสถานที่จัดประชุม หลังการประชุมสมาชิกก็เลือกราเชนเป็นหัวหน้าพรรค มี ไพโรจน์ กระทุ่มทองเลิศ เป็นเลขาธิการพรรค ชูสโลแกน “กล้าคิด กล้านำ ทำจริง”

  • คอลัมน์

    พาราสาวะถี : อรชุน

    อาการแบ่งบทกันเล่น เว้นช่องไฟให้คนตอบของสนช.กรณีร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ดูจากท่วงทำนองแล้วคงหนีไม่พ้นต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย โดยที่ภาระดังกล่าวเป็นเรื่องของสภาที่เกิดจากการแต่งตั้งโดยคสช. จะมาปัดสวะโยนภาระหรือเอากระดูกมาแขวนคอ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้อย่างไร

  • คอลัมน์

    พาราสาวะถี : อรชุน

    ใครจะบอกว่าคิดผิดแต่เชื่อว่าผู้มีอำนาจไม่คิดเช่นนั้น มิหนำซ้ำ ยังมั่นใจว่าทำถูก เนื่องจากเชื่อมั่นว่า “เอาอยู่” คุมสถานการณ์ได้ ดังนั้น การใช้มาตรา 44 ปลด สมชัย ศรีสุทธิยากร พ้นจากตำแหน่งกกต.จึงไม่มีอะไรต้องห่วง แม้คนโดนปลดจะยังคงออกมาเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง แต่เชื่อได้ว่าจะปล่อยให้จ้ออยู่อย่างที่เป็นอยู่ได้อีกไม่นาน

  • คอลัมน์

    พาราสาวะถี : อรชุน

    จากการบ่นหากจำเป็นต้องเอากระดูกมาแขวนคอก็ต้องทำ กับประโยคล่าสุด “นายกรัฐมนตรีไม่ใช่ไปรษณีย์” ของ วิษณุ เครืองาม เป็นภาพสะท้อนอันเด่นชัดว่า ร่างกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.นั้นมีปัญหาที่สมควรจะต้องถูกส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความอย่างแน่นอน เพียงแต่เหตุใดไม่ทำให้จบในชั้นของผู้มีอำนาจพิจารณาอย่างสนช. ทำไมจึงโยนสวะมาถึงมือผู้มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด

Back to top button