อรชุน
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
หงุดหงิด อารมณ์บ่จอยเป็นเรื่องปกติสำหรับปุถุชนคนธรรมดา แม้ว่าจะมีหัวโขนเป็นทั้งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แต่แรงกดดันที่มันถาโถมเข้าใส่ มิหนำซ้ำ ยังมาถูกนักข่าวต่างชาติตั้งคำถามประเด็นถูกม็อบนักเรียนเรียกว่าเป็นเผด็จการเข้าไปอีก ต่อให้อารมณ์ดีขนาดไหนก็ต้องบูดบึ้งได้ในฉับพลัน อีกนั่นแหละ นี่คือการเมืองในระบอบประชาธิปไตยแม้จะดีไซน์เพื่อให้ขบวนการสืบทอดอำนาจได้อยู่ต่อไปโดยไม่แยแสเสียงใด ๆ ก็ตาม
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
เห็นการขยับกันโดยพร้อมเพรียงของวิปรัฐบาล สองพรรคร่วมรัฐบาลสำคัญ เกี่ยวกับประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้ว บอกได้คำเดียวว่านี่คืออาการดิ้นไม่หลุด เด้งเชือกไม่พ้น เพราะกระแสสังคมต่างเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า กฎหมายสูงสุดของประเทศฉบับสืบทอดอำนาจนั้น สร้างปัญหาจนทำให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้าไม่ได้ ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจนว่า ทั้งประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย และวิปรัฐบาล ต่างเห็นพ้องตรงกันมาตรา 256 ต้องแก้ไขเพื่อเปิดทางให้แก้รัฐธรรมนูญได้ง่ายและตั้งส.ส.ร.ขึ้นมาร่างกันใหม่
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
อารมณ์ขันรับอรุณวันประชุมครม. พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ตอบคำถามนักข่าวเรื่องนักเรียนชูสามนิ้วในโรงเรียนบอกเป็นเพียงสัญลักษณ์ของลูกเสือ ในทางกลับกันต้องย้อนไปดูสีหน้าแววตาของน้องเล็ก ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ มันตรงข้ามกับพี่ใหญ่อย่างสิ้นเชิง ออกอาการเครียดหนักตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา ไม่รู้สาเหตุมาจากเห็นม็อบมากันจำนวนมาก หรือเพราะถูกอดีตอธิบดีอัยการขับรถไล่จี้ขบวนแล้วบีบแตรไล่หรือไม่
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
ไหลลามเข้าไปในรั้วโรงเรียนอย่างเข้มข้นและดุเดือด สำหรับแนวร่วมม็อบประชาชนปลดแอก ที่วันวานปรากฏภาพของนักเรียนในหลายโรงเรียนทั่วประเทศแสดงออกด้วยการชู 3 นิ้วหน้าเสาธงพร้อมการผูกโบว์สีขาวและการติดแฮชแท็กในทวิตเตอร์ “โรงเรียนหน้าเขาไม่เอาเผด็จการ” โดยมีโรงเรียนบางแห่งที่ครูแสดงอาการโมโหถึงขั้นตบนักเรียนจนโทรศัพท์ที่ถ่ายคลิปร่วงจากมือ และอีกหลายพฤติกรรมที่แสดงออกถึงการวางอำนาจบาตรใหญ่
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
เป็นความท้าทายและพิสูจน์ความจริงใจของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจไปในคราวเดียวกัน ม็อบของขบวนการคนหนุ่มสาวที่ขยายวงกันไปทั่วประเทศ เวทีรับฟังความคิดเห็นของคนรุ่นใหม่ที่ประกาศกันมานานร่วมสองสัปดาห์ ยังไม่มีวี่แววว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใดและมีใครที่จะถูกเชิญเข้าร่วมบ้าง หากเป็นพวกจัดตั้งทุกอย่างก็จบ เพราะจะได้แค่เสียงสรรเสริญเยินยอ คำไพเราะเสนาะหู แต่ไม่ใช่ปัญหาอันแท้จริง ซึ่งถึงวันนี้ต่างรู้ดีกันว่าคืออะไร
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
อาทิตย์นี้ลุ้นระทึกไม่ใช่วันหวยออก แต่เป็นวันที่กลุ่มนักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชน ในนามเยาวชนและประชาชนปลดแอก นัดชุมนุมใหญ่ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย คาดหมายไม่ได้คาดเดาไม่ถูกว่ารูปแบบจะออกมาเป็นอย่างไร ถ้ายึดบรรทัดฐานจากการเคลื่อนไหวที่ลานพญานาค มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เมื่อวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา ก็น่าเป็นห่วง เพราะหากเกิดเหตุการณ์ในทำนองเดียวกันซ้ำอีก รอบนี้ฝ่ายความมั่นคงไม่น่าจะปล่อยผ่าน
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
เวทีชุมนุมที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เมื่อวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา อาจเป็นจุดตั้งต้นของสถานการณ์ที่พลิกผัน ไม่ได้หมายความว่า รัฐบาลสืบทอดอำนาจจะกุมความได้เปรียบ แต่มันเหมือนเป็นการโบกมือดักกวักมือเรียกให้ท็อปบูธต้องออกมาคลี่คลายสถานการณ์ นั่นหมายความว่า ปลายทางที่จะเกิดการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มันจะเปลี่ยนไปเป็นการ “ฉีกทิ้ง” แทน แกนนำของขบวนการคนหนุ่มสาวคงต้องตอบคำถามตัวเองว่ากำหนดทิศทางและวางเป้าหมายกันไว้อย่างไร
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
ผ่านพ้นไปเรียบร้อย ไม่มีปัญหาอะไรกับการที่มีสองม็อบนัดหมายในเวลาเดียวกัน สถานที่เดียวกันคือรัฐสภา แต่เคลื่อนไหวคนละเรื่อง หรือมองอีกด้านคืออยู่ฝ่ายตรงข้ามกันอย่างชัดเจน โดยกลุ่มคณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนหรือครช. นำโดย อนุสรณ์ อุณโณ อาจารย์ประจำคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ไปยื่นหนังสือผ่านฝ่ายค้านเป็นร่างพระราชบัญญัติประชามติ แสดงเจตจำนงให้ยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับไม่ใช่แก้ไขรายมาตรา
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
ฟังคำอธิบายเรื่องตัวรัฐมนตรีที่ผ่านการปรับแล้วจากปากของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ยิ่งทำให้เห็นว่า สิ่งที่ทำไปนั้นเพื่อหวังผลในมิติทางการเมืองเท่านั้น หาได้มีมิติที่จะทำให้ประชาชนฝากความหวังไว้ได้แม้แต่น้อย แม้กระทั่งการชี้แจงเรื่องส่ง นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ จากโฆษกรัฐบาลไปนั่งเป็นรัฐมนตรีช่วยแรงงาน พยายามจะบอกหรือโชว์ให้เห็นวิสัยทัศน์ในการมองปัญหาภาคแรงงานและการให้ความสำคัญ แต่โจทย์ที่อธิบายดูเหมือนจะไปคนละทิศละทางกับความต้องการของผู้ใช้แรงงาน
-
คอลัมน์
พาราสาวะถี : อรชุน
ในที่สุดก็เห็นช่องทางของการรื้อคดี วรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส กระทิงแดง ตั้งต้นกันที่คณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงชุดที่อัยการสูงสุดตั้งขึ้นมา ตั้งโต๊ะแถลงไปแล้ววันวาน ย้ำมี 2 ประเด็นที่ยังไม่ปรากฏในสำนวนชุดที่ เนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุดมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง คือ ความเร็วรถที่คำนวณได้ในอัตรา 177 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถือเป็นพยานหลักฐานใหม่ ตามประมวลกฎหมายวิอาญา…