โมนิก้าและทีมงาน

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : กสทช. หน้าใหญ่ ?

    จริง ๆ “โมนิก้า” ไม่อยากเข้าไปแส่เรื่องชาวบ้านมากนักหรอก! แต่เผอิญมีผู้ชาย..อุ๊ย..ผู้คนมากมายผ่านเข้ามาในชีวิตแต่ละวันเยอะเหลือเกิน เลยล่วงรู้พฤติกรรมของคนในแวดวงตลาดเงินตลาดทุนเป็นแบบไหน ? แถมแต่ละเคสก็มีเรื่องให้เม้าท์มอยแตกต่างกันไป เดี๊ยนถึงพยายามเลือกอาการปากมากให้ถูกจังหวะเวลา เพื่อให้ประเด็นดังกล่าวสอดรับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงนั้น ๆ มากที่สุดไงล่ะคะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : ‘เสี่ยเจริญ’ หมดสิทธิ์ซื้อ ‘โลตัส’

    ประเด็นของการลงทุนเที่ยวนี้คงไม่มีอะไรต้องคิดมากอีกต่อไป เพราะแรงซื้อที่เข้ามาก็เป็นแค่ระยะสั้น ๆ ซึ่งไม่ช่วยให้ดัชนีทะยานขึ้นอย่างบูรณาการ ขณะที่แรงขายก็ตั้งหน้าตั้งตาสาดหุ้นออกมาไม่ยั้งเช่นกัน “โมนิก้า” เลยไม่มีเหตุผลดื้อรั้นพูดในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ (ไม่อยากหลอกตัวเอง) เพราะมันเห็นกันทนโท่ว่า กองทุนตัวแสบยังเดินหน้าลดพอร์ตลงทุนตลอดเวลา ส่วนฝรั่งตาน้ำข้าวก็โบกมือลาตลาดหุ้นไทยอย่างชัดเจนเจ้าค่ะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : เอาอะไรมาขึ้น!

    จริง ๆ “โมนิก้า” มีมุมมองต่อตลาดหุ้นไทยเป็น “บวก” เสมอมา แต่เหตุการณ์หลายอย่างที่เกิดขึ้นในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานทำให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าแทบไม่มีความเป็นไปได้ที่หุ้นไทยจะสวนชาวโลกแบบบูรณาการ ในเมื่อเห็นกันทนโท่ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นบั่นทอนเศรษฐกิจโลกอย่างมีนัยสำคัญ เดี๊ยนเลยไม่รู้สึกแปลกใจเลยสักนิดกับการที่ดัชนีพยายามทะยานขึ้นในแดนบวก ทั้งที่ตลาดหุ้นทั่วโลกแดงแป๊ด..แป๊ด และถูกกระชากอารมณ์ด้วยการหัวทิ่มกลับลงมาปิดในแดนลบ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : ซื้อสวนไม่ไหว

    หากประเมินอารมณ์ของนักเล่นกลุ่มต่าง ๆ ในช่วงนี้จะเห็นว่า ทุกคนอยู่ในจังหวะ “ซึมเศร้า เหงาหงอย” จนไม่อยากเคาะขวารัว ๆ เมื่อเห็นหุ้นตกลงมาหนัก เพราะความวิตกกังวลเกี่ยวกับการระบาดของเชื้อมรณะโคโรน่ายังฟุ้งกระจายไปทั่ว จนผู้คนมากมายจินตนาการไปถึง ขั้นนั้น..ขั้นนี้ ไม่หยุดหย่อน ผสมปนเปกับข่าวลือมากมายก่ายกองเกิดขึ้นไม่เว้นแต่ละชั่วโมง สภาพตลาดหุ้นทั่วโลกถึงได้เละเป็นโจ๊กไงล่ะคะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : เป๋ไปเป๋มา

    สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยที่ย่ำแย่มาหลายวันได้มีโอกาสเด้งดึ๋งช่วงสั้น ๆ ก่อนจะถูกแรงเทขายออกมาจนทำให้ลงมาปิดที่ระดับ 1,569.55 จุด ลบไป 4.15 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.75 หมื่นล้านบาท ถือเป็นเรื่องปกติที่มักเจอกันทั่วไปในช่วงเทศกาลที่ตลาดหุ้นจะเงียบเหงา โดยเฉพาะหากในประเทศยังคงมีแต่ปัจจัยลบกดดันหลาย ๆ ด้าน ยิ่งทำให้ตลาดหุ้นไม่น่าลงทุนเอาเสียเลย

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : กองทุนเบี้ยล่างทุนใหญ่

    ดูเหมือนสตอรี่เกี่ยวกับตลาดหุ้นไทยจะหดหายลงไปเรื่อย ๆ ทำให้การขยับตัวขึ้นของหุ้นแต่ละตัวเต็มไปด้วยความยากลำบาก พร้อมกับมีการตั้งคำถามในเชิงเปรียบเทียบว่า หากผ่านพ้นช่วงประกาศงบการเงินไปแล้ว นักเล่นจะเอาข่าวไหนมาบิลต์อารมณ์เพื่อเคาะขวารัว ๆ “โมนิก้า” ตอบได้ทันทีว่า คงต้องเอาเรื่องเศรษฐกิจเป็นธงนำในการเล่น เพราะเป็นเรื่องเดียวที่พอจะทำให้นักเล่นคำนวณการสะพัดของเม็ดเงินเป็นไปตามที่เฮีย “สมคิด” ทำการฝอยไว้เยอะหรือเปล่า?..มันเป็นเรื่องที่ต้องลุ้นระทึกจริง ๆ นะคะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : ดันไม่ไหว

    หากมองสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยไปทีละสเต็ป จะเห็นว่ายังไม่มีตัวแปรใหม่ ๆ เข้ามาบิลต์อารมณ์นักเล่นให้เกิดอาการฮึกเหิมจนกระโจนเข้าไล่ราคาหุ้นกันอย่างเมามันแบบนี้ “โมนิก้า” ถือเป็นเกมยากสำหรับนักเล่นกลุ่มต่าง ๆ เพราะมันกลายเป็นเกมที่เน้น “เล่นสั้น” มากกว่า “เล่นยาว” วันนี้ถึงเห็นหุ้นหลายตัวดิ่งลงแบบไม่มีเบรก และมีความเป็นไปได้ที่จะไม่เด้งกลับได้ในเร็ววันพะยะค่ะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : หุ้นใหญ่โรครุมเร้า

    เดิมที “โมนิก้า” ตั้งใจเม้าท์เรื่องดี ๆ ก่อนเทศกาลตรุษจีน เพื่อเอาฤกษ์เอาชัยในการลงทุน แต่เผอิญเรื่องราวที่เกิดขึ้นเที่ยวนี้เต็มไปด้วยข่าวร้าย จึงเกิดอาการห่อเหี่ยวก่อนเวลาอันควร มันเป็นสถานการณ์ที่บีบคั้นนักเล่นสถาบันอย่างเห็นได้ชัด เดี๊ยนเลยไม่แปลกใจที่ตลาดหุ้นไทยเริ่มอ่อนปวกเปียกเป็นมะเขือเผา เพราะมันไม่มีประเด็นจูงใจให้นักเล่นเข้ามาไล่หุ้นกันอย่างเมามันไงล่ะคะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : แบงก์ทำพิษ

    ทุกครั้งที่ตลาดหุ้นไทยเริ่มมีความหวังอย่างเป็นรูปธรรมทีไร “โมนิก้า” มักเห็นปรากฏการณ์เหนือความคาดหมายตามหลังมาเป็นประจำด้วยเช่นกัน จึงพยายามให้นักเล่นอ่านเกมไปทีละสเต็ป เพื่อทำให้การเคาะขวาเป็นไปอย่างราบรื่น แถมเที่ยวนี้เป็นเรื่องสงครามความเชื่อนำหน้า ก็ควรเผื่อใจเรื่องต่าง ๆ นานาไว้ตั้งแต่เริ่มต้น เพราะการมารู้ตัวทีหลังไม่มีประโยชน์อะไรทั้งสิ้นพะยะค่ะ

  • คอลัมน์

    เจาะกระดาน : ฟีลลิ่งมาเต็ม

    หากมองตามรูปการณ์ของหุ้นใหญ่ที่มาแบบจัดเต็มเพื่อไม่ให้เสียของ “โมนิก้า” ย่อมไม่มีอะไรต้องวอร์รี่อีกต่อไป เพราะการเคาะขวารัว ๆ ที่เกิดขึ้นมันหมายถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อระบบเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวขึ้นเป็นลำดับ หลังจากปัญหาหลายอย่างที่คาราคาซังถูกปลดออกไปเสียที ส่งผลให้บรรยากาศการลงทุนช่วงนี้ชื่นมื่นสุด ๆ เพราะมองไปทางไหน ด้านไหน ก็มีแต่สีเขียวละลานตาไปหมดไงล่ะคะ

Back to top button