โมนิก้าและทีมงาน
-
คอลัมน์
เจาะกระดาน : 1,650 จุดสร้างฐาน
หากนับเวลาตั้งแต่ต้นปี 62 จะเห็นว่า ตลาดหุ้นไทยทำท่า “ยงโย่ยงหยก” บริเวณ 1,650 จุดมาทั้งหมด 3 ครั้งด้วยกัน ซึ่งแต่ละครั้งก็เดินหน้าขึ้นไปจากจุดดังกล่าวไม่ไกลสักที ก่อนจะลงเอยด้วยการม้วนหางลงมาต่ำกว่าระดับดังกล่าว มันทำให้ทฤษฎีการสร้างฐานบริเวณดังกล่าวมีน้ำหนักมากขึ้น และจะยิ่งเด่นชัดขึ้นไปอีกขั้นเมื่อดัชนีสามารถขึ้นไปยืนเหนือบริเวณดังกล่าวจริง ๆ เสียทีนะจะบอกให้
-
คอลัมน์
เจาะกระดาน : หัวทองลุย
วันนี้ “โมนิก้า” ขอจั่วหัวแบบล่อเป้าเพื่อบิลต์อารมณ์นักเล่นให้มองไปยังอนาคตข้างหน้าพร้อมกันว่า การวิ่งขึ้นมาปิดของดัชนีที่ระดับ 1,648.46 จุด บวกไป 10.77 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.42 หมื่นล้านบาท ใช่เครื่องยืนยันการกลับเข้ามาลงทุนเต็มตัวของหัวทองหรือเปล่า ? หลังไทม์ไลน์ของเหตุการณ์ต่าง ๆ เห็นพ้องไปในทางเดียวกันว่า ความเสี่ยงในการลงทุนเริ่มจำกัด แต่รีเทิร์นในการเล่นรอบเริ่มสูงขึ้นกว่าเดิมไงล่ะค่ะ
-
คอลัมน์
เจาะกระดาน : ชักหน้าไม่ถึงหลัง
*ตลาดหุ้นท้ายสัปดาห์วิ่งแบบสะเปะสะปะจากแรงซื้อและแรงขายที่เข้ามาตลอดทั้งวันจนลงไปทำจุดต่ำสุดอยู่แถว ๆ 1,612.17 จุด ลักษณะที่เกิดขึ้นทำให้ “โมนิก้า” ถึงกับต้องเอากลับไปคิดเป็นการบ้านถึงเหตุการณ์รอบด้านที่มีอยู่ขณะนี้ว่า ปัจจัยลบหรือปัจจัยบวกมีอิทธิพลต่อการซื้อขายของหุ้นมากกว่ากัน ? ซึ่งคำตอบเห็นได้จากรูปแบบของดัชนีตลอดสัปดาห์ที่แล้วทำให้เดี๊ยนต้องเกาะติดแนวรับ 1,600 จุดเอาไว้ให้มั่น
-
คอลัมน์
เจาะกระดาน : ย่ำฐาน
*ประเด็นของการลงทุนในเที่ยวนี้คงไม่มีอะไรแปลกใหม่กว่าที่เป็นอยู่มากนัก เพราะตลาดหุ้นไทยกำลังเข้าสู่โหมดของการย่ำฐานเพื่อรอเวลาขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,650 จุดอีกครั้ง ส่งผลให้การเคลื่อนตัวของหุ้นกลุ่มบลูชิพไปคนละทางอย่างเห็นได้ชัด พร้อมกับเปิดโอกาสให้คนที่อ่านเกมออกเข้าลงทุนรอบใหม่ได้อย่างสบายใจเฉิบ หลังวงรอบของหุ้นดาวเด่นยังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบเดิมนะซี
-
คอลัมน์
เจาะกระดาน : ฝนห่าเดียว !
*หลายครั้งที่ทุกคนมีอารมณ์ร่วมกับตลาดทุนไทยทีไร สุดท้ายมักลงเอยด้วยการฝันค้างตอนกลางวันเป็นประจำ จนหลายคนไม่อยากคาดหวังอะไรที่ไกลเกินตัวอีกแล้วนั้น “โมนิก้า” ถือเป็นแนวคิดการลงทุนที่ไม่เมกเซนส์สักเท่าไหร่ท่ามกลางบรรยากาศที่เริ่มดีขึ้น (ถ้าจะให้ดีสุด ๆ งบไตรมาส 2 ต้องออกมาดีด้วย) จึงอยากให้นักเล่นโอนอ่อนผ่อนปรนไปตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันพะยะค่ะ
-
คอลัมน์
เจาะกระดาน : สะเทือนดวงดาว
*กลายเป็นกระแสดราม่าขึ้นมาในทันที หลังจากสำนักงานที่เคยได้ชื่อเป็นเสือกระดาษลุกขึ้นมาจัดระเบียบ พร้อมกับสังคายนาครั้งใหญ่กับผู้สอบบัญชีนอกรีตที่ใช้ข้อมูลหาประโยชน์ใส่กระเป๋าตัวเอง ซึ่งทำให้ผู้คนมากมายแซ่ซ้องผลงานชิ้นโบแดงของ “เจ๊รื่นวดี” กันยกใหญ่ หลังจากปล่อยให้ก๊กก๊วนดังกล่าวอาละวาดในตลาดหุ้นเป็นเวลานาน เดี๊ยนเลยต้องกล่าวคำชื่นชมกันสักนิดหนึ่งพะยะค่ะ
-
คอลัมน์
เจาะกระดาน : เล่นกันมัน!
*บรรยากาศการลงทุนในช่วงสัปดาห์ก่อนมีหลากเรื่อง หลายรสชาติ ผสมปนเปกับดราม่าเล็ก ๆ น้อย ๆ ตามประสานักลงทุนที่ถนัดเล่นแบบ “เข้าทำเร็ว” เดี๊ยนถึงแอบกระซิบแฟนคลับตั้งแต่วันก่อนว่า ต้องทันเกม ! พวกอ่อนต่อโลกอาจไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น แต่คนที่เข้าใจเรื่องเกมการเงิน ย่อมเข้าใจถึงรูปแบบของการลงทุนในเที่ยวนี้อย่างถ่องแท้ เพราะหุ้นเริ่มออกอาการลิ้นห้อย ต้องขอเวลาพักเอาแรงนิดหน่อยเจ้าค่ะ
-
คอลัมน์
เจาะกระดาน : ขุดบ่อล่อปลา
*วันนี้ “โมนิก้า” ไม่มีประเด็นใหม่ ๆ ที่ได้ยินมาจากบรรดาขาเผือกมาเล่าให้ฟังแบบสนุกโปกฮาเหมือนเช่นวันก่อน ๆ หลังข้อมูลหลายอย่างชี้ให้เห็นว่าสถานการณ์ของตลาดหุ้นทั่วโลกไม่มีอะไรนิ่งสักอย่าง ส่งผลให้ดัชนีไทยตกอยู่ในภาวะไซด์เวย์ดาวน์ต่อไปอย่างไม่มีกำหนด ผนวกกับบรรดาเกจิอาจารย์ดังทำนายทายทักกันสนุกปากเหลือเกินว่า เศรษฐกิจโลกจะตกอยู่ในภาวะถดถอย เดี๊ยนเลยรู้สึกเซ็งในอารมณ์สุด ๆ นะจะบอกให้
-
คอลัมน์
เจาะกระดาน : ลงมากกว่าขึ้น
*เป็นเรื่องธรรมดาของดัชนีที่ปรับตัวขึ้นแรง ๆ และจะตามมาด้วยแรงขายทำกำไรแบบหนัก ๆ วานนี้ถึงเป็นอีกครั้งที่ได้เห็นตลาดหุ้นไทยเซถลาลงมาปิดที่ระดับ 1,609.79 จุด ลบไป 17.12 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.70 หมื่นล้านบาท ทำให้เห็นว่าการที่ก่อนหน้านี้ดัชนีปรับตัวขึ้นสูงนั้นเป็นเพียงการลากขึ้นไปแล้วขายทำกำไรออกมาในจังหวะสั้น ๆ เท่านั้น ส่วนภาพรวมของตลาดยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
-
คอลัมน์
เจาะกระดาน : แนวต้าน 1,630 จุด
*ดัชนีช่วงที่ผ่านมาเริ่มมีสัญญาณเป็นโทนบวกเพิ่มขึ้นหลังจากวานนี้วิ่งแรงมาปิดที่ระดับ 1,626.91 จุด บวกไป 16.42 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.09 หมื่นล้านบาท แต่สำหรับ “โมนิก้า” มองว่าการเล่นหุ้นปัจจัยพื้นฐานยังเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะขณะนี้ฐานของดัชนียังไม่แน่นพอหุ้นจึงพร้อมจะกลับหัวลงมาได้อีกเสมอ เว้นเสียแต่ว่าการปรับขึ้นรอบนี้จะสามารถขึ้นไปยืนเหนือแนวต้าน 1,630 จุด ถึงจะทำให้มีเสถียรภาพมากขึ้นเจ้าค่ะ